ปลดล็อคโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องให้ กทม. ถอน พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน ลดความเดือนร้อนให้ชาวบ้านในซอยวิภาวดีฯ 5 พร้อมเดินหน้าหลังยืดเยื้อมา 24 ปี
ปลดล็อคโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องให้ กทม. ถอน พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน ลดความเดือนร้อนให้ชาวบ้านในซอยวิภาวดีฯ 5 พร้อมเดินหน้าหลังยืดเยื้อมา 24 ปี
ในที่ประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต หรือหมอชิตคอมเพล็กซ์ เห็นชอบร่วมกันให้กรุงเทพมหานครยกเลิกการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน บริเวณโดยรอบการก่อสร้างทางยกระดับที่เข้าออกโครงการฯ เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนบริเวณซอยวิภาวดีรังสิต 5 ด้านหลังสถานีขนส่งหมอชิตเก่า
พร้อมทั้งมอบหมายบริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) ไปเร่งสำรวจว่าควรมีรถประเภทใดและจำนวนเท่าไร ที่จะเข้ามาใช้ในพื้นที่หมอชิตคอมเพล็กซ์ได้อย่างเหมาะสม โดยไม่กระทบต้องเวนคืนที่ดิน ให้เสร็จสิ้นใน 1 เดือน แล้วนำกลับมารายงานใน พ.ค. นี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้กรุงเทพฯ ใช้ประกอบการเสนอขอถอน พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน
และเป็นข้อมูลสำหรับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อพิจารณาจัดระเบียบจราจรในพื้นที่ใหม่ รวมทั้งเป็นข้อมูลให้บริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด (บีเคที) ผู้ได้สิทธิพัฒนาหมอชิตคอมเพล็กซ์ ได้รับทราบและนำไปใช้ปรับปรุงรูปแบบการใช้พื้นที่ต่อไปได้
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เผยว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา บริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด ได้ยื่นศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยไม่ต้องเวนคืนที่ดินไปแล้ว จะใช้เวลาพิจารณาอีกระยะหนึ่ง
ส่วนการใช้ประโยชน์พื้นที่ชดเชย 1.1 แสนตารางเมตร กรมการขนส่งทางบกยืนยันที่จะเข้าไปใช้ประโยชน์เหมือนเดิม แต่อาจปรับรูปแบบบางส่วนเพื่อไม่ให้กระทบการจราจรและการเวนคืนที่ดิน
อธิบดีกรมธนารักษ์มั่นใจว่าโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ที่ล่าช้ามา 24 ปี จะได้ข้อยุติ และเริ่มก่อสร้างภายในปี 2564 และหากโครงการเดินหน้าจะทำให้เกิดการลงทุนหลายหมื่นล้านบาท มีการจ้างงานหลายอัตรา เกิดศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ และยังทำให้กรมธนารักษ์มีรายได้นำส่งเข้าคลังเพิ่มขึ้นกว่า 1,200 ล้านบาท