1ก.คเปิดประเทศได้รับ นทท. ได้ แต่ต้องมีมาตรการที่รัดกุม วอนรัฐช่วยหามาตรการที่ดีแล้วรีบเปิดประเทศได้ไหม?

บอกตามตรงว่ายิ่งตามข่าวโควิดมาตลอดระยะเวลาปีกว่าๆ ที่ผ่านมา พบว่ามีสิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นเกี่ยวกับเชื้อโรคนี้ตลอด เดี๋ยวก็ไปผุดตรงนั้น โผล่ตรงนี้ นึกว่ามันซาไปแล้วประเทศเราแสนเก่งยังไงก็เอาอยู่ สุดท้ายจนแล้วจนรอดปีนี้มันก็ยังไม่ไปจากเรา แน่นอน โควิดไม่ใช่แค่ทำให้ป่วย แต่มันพรากโอกาสการทำมาหากินของคนในประเทศนี้ไปด้วย ทีนี้พอมันกินระยะเวลาที่นานเกินไปกับประเทศที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวมากมายอย่างเรามันพากันดิ่งไปหมดเลย 

 ในเมื่อฝั่งเชื้อโรคมันเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ส่วนฝั่งเศรษฐกิจก็มีแต่ทรงกับทรุด ถ้าไม่ยอมถ่ายน้ำหนักลงมาในภาคส่วนของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวบ้าง มันจะพากันจมหมดนะ

ถึงแม้ว่าในวันนี้เราจะมีวัคซีนแล้ว เร่งฉีดกันให้ว่องไวแค่ไหน ยังไงก็ไม่ทันกับเวลาอยู่ดี ยังไงซะการท่องเที่ยวก็ต้องกลับมาภายในปี 64 เพื่อที่จะไม่ต้องพลาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านคน แต่ถ้าไม่อยากพลาดจำนวนนักท่องเที่ยว 6 ล้านคน ก็ควรที่จะเปิดในเดือน ก.ค. 64 นี้

แต่ครั้นจะให้ถ่ายน้ำหนักไปยังเรื่องเศรษฐกิจท่องเที่ยวอย่างเดียว ก็อาจจะนำพาเชื้อโรคโควิด 19 กลับมาระบาดหนักอีกครั้งก็ได้ ดังนั้นผมว่ารัฐ ควรที่จะมีแผนที่ต้องรัดกุมในขณะเดียวกันก็ต้องกล้าที่จะเปิดประเทศ โดยหามาตรการรองรับ พาสปอร์ตวัคซีน คนที่ได้รับวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัวตามอะไรก็ว่าไป รัฐต้องบูรณาการแผนควบคุมโรคกับแผนเปิดประเทศไปพร้อมๆ กัน ไม่งั้นพังครืนกันทุกด้าน ถ้าถึงเวลานั้นคนที่ตายก่อนคือคนหาเช้ากินค่ำ SME คนชนชั้นกลาง ต่อให้เป็นคนรวย ก็ยังจะยืนไม่ไหวเหมือนกันแหละ เปิดประเทศอย่ากล้าหาญและรัดกุมได้แล้ว