'วิษณุ' ชี้ช่องสภาฯ เดินหน้าโหวตวาระ 3 แนะงดออกเสียงเป็นวิธีที่ดีที่สุด 'พรรคร่วมฝ่ายค้าน' ยันเดินเครื่องเต็มสูบโหวตแก้รธน.
'วิษณุ' ชี้ช่องสภาฯ เดินหน้าโหวตวาระ 3 แนะงดออกเสียงเป็นวิธีที่ดีที่สุด 'พรรคร่วมฝ่ายค้าน' ยันเดินเครื่องเต็มสูบโหวตแก้รธน.
วันที่ 12 มี.ค. จากกรณีที่รัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า รัฐสภามีหน้าที่ และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่ กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่งนั้น
ล่าสุด มีความเห็นต่อเรื่องนี้จำนวนมาก จนนำซึ่งการตีความแตกต่างกันว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่ค้างอยู่ในสภาฯจะถือเป็นโมฆะไปหรือไม่ ต่อเรื่องนี้
โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ รัฐสภาสามารถเดินหน้าโหวตวาระ 3 ต่อไปได้หรือไม่ ว่า คดีนี้เนื่องจากไม่มีคู่ความศาลจึงไม่ได้อ่านคำพิพากษา มีแต่คำสรุปเผยแพร่ออกมาไม่กี่บรรทัด อ่านดูแล้วยังไม่เข้าใจ แต่เขาได้ส่งคำวินิจฉัยฉบับเต็มไปที่ประธานรัฐสภา ซึ่งคาดว่าส่งถึงแล้วและทางสภาฯ คงได้วิเคราะห์กันแล้ว
"เอาโดยสรุปผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของสภาฯ ซึ่งสภาฯ จะทำอย่างไรก็แล้วแต่ โดยวาระหนึ่ง วาระสอง ไม่ได้มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่วาระ 3 จะลงมติได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งประธานสภาฯได้บรรจุวาระนี้เข้าไปในที่ประชุมรัฐสภาไว้แล้ว ถ้าสภาเห็นว่าไม่ควรจะโหวตก็ไม่โหวต แต่ถ้าสภาเห็นว่าไม่เป็นอะไรโหวตไป สุดท้ายถ้าให้ทำประชามติ แต่ความเสี่ยงเพราะคำวินิจฉัยออกมาอย่างนี้ แล้วก็มีอีกฝ่ายที่ไม่ค่อยจะเห็นด้วยในการโหวตวาระ 3 อยู่แล้ว ดังนั้นอาจต่องคว่ำเสียให้มันตกไปให้จบเรื่อง แล้วค่อยไปเริ่มต้นกันใหม่ โดยจะเริ่มที่ลงประชามติก่อนเพื่อแก้ทั้งฉบับตามที่ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำ หรือจะแก้เป็นรายมาตราก็เป็นเรื่องที่ไปคิดอ่านกัน ซึ่งทั้งหมดนี้คือความเห็นของผม" นายวิษณุ กล่าว
ส่วน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญส่งคำวินิจฉัยมาให้เพียง 4-5 บรรทัด ซึ่งขณะนี้ความเห็นก็ยังไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่นัก ยังคงตีความกันอยู่ ดังนั้น จึงต้องรอรายละเอียดของคำวินิจฉัยก่อน ส่วนจะสามารถโหวตแก้รัฐธรรมนูญในวาระสามต่อได้หรือไม่นั้น ตนได้สั่งบรรจุระเบียบวาระ ก่อนที่ศาลมีคำวินิจฉัยออกมา
เมื่อถามว่าการโหวตรัฐธรรมนูญวาระสอง ที่ผ่านไปแล้วนั้น เป็นโมฆะหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่เป็น เพราะวาระสองผ่านไปโดยเรียบร้อย ระเบียบวาระไม่ได้มีปัญหาอะไร ซึ่งวาระสองที่ผ่านไปแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร
"ส่วนวาระสามที่จะโหวตเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบนั้น เป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าโหวตผ่านวาระสองแล้วให้ทิ้งเวลา 15 วัน แล้วจึงโหวตวาระสาม ซึ่งขณะนี้วาระสองได้พ้น 15 วันไปแล้ว" ประธานรัฐสภา กล่าว
ด้าน นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวว่า สรุปง่ายๆ ครับ ถ้าจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ สภาฯมีอำนาจทำได้ แต่ต้องไปถามประชามติจากประชนผู้สถาปนาอำนาจก่อนว่ายอมอนุมัติหรือไม่ ส่วนวาระ 3 จะตกไปหรือไม่ ไม่ต้องกังวลครับ เพราะตราบใดไม่มีประชามติอนุมัติให้สภาฯไปร่างรัฐธรรมนูญใหม่ สภาฯจะถือวิสาสะโหวตวาระ3 เพื่อจะให้มีสสร.ไปร่างใหม่ไม่ได้เช่นกันครับ
ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้แถลงการกำหนดท่าทีต่อเรื่องนี้ โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน หารือคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ จะเดินหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่ค้างอยู่ในสภาฯ แม้ว่าจะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยคงจะมีการคัดค้าน
ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า อำนาจหน้าที่ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของรัฐสภาตั้งแต่ต้น ซึ่งการที่มีคำวินิจฉัยเป็นคำยืนยันความปกติของรัฐธรรมนูญใหม่ว่าไม่ได้ฉีกง่ายกว่าแก้ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ควรล้มล้างการปกครองหรือรัฐประหารอย่างเดียว ซึ่งการลดทอนอำนาจของสภาฯในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการประวิงเวลาที่ไม่ควรเกิดขึ้น