รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จังหวัดยะลา จับมือเครือข่ายและผู้นำศาสนา ภายใต้โครงการขับเคลื่อนการจัดการสิ่งแวดล้อมมัสยิด จังหวัดยะลา
รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จังหวัดยะลา จับมือเครือข่ายและผู้นำศาสนา ภายใต้โครงการขับเคลื่อนการจัดการสิ่งแวดล้อมมัสยิด จังหวัดยะลา
วันนี้ 6มีค.64 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ และคณะผู้บริหารฯ ได้เดินทางไปยังโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อร่วมกับเครือข่ายและผู้นำศาสนาร่วมขับเคลื่อนการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นำร่องมัสยิด 516 แห่ง ทั่วจังหวัดยะลา ภายใต้ “โครงการขับเคลื่อนการจัดการสิ่งแวดล้อมมัสยิด จังหวัดยะลา และโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ” ซึ่งจัดขึ้นโดย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ก่อนขยายผลครอบคลุม อีก 2 จังหวัด (ปัตตานีและนราธิวาส) มากกว่า 1,000 แห่ง พร้อมได้มอบตราสัญลักษณ์ “การจัดการสิ่งแวดล้อมมัสยิด” ให้กับรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ตลอดจนเยี่ยมการจัดการสิ่งแวดล้อมมัสยิด รวมทั้ง เยี่ยมชมนิทรรศการธนาคารขยะในโรงเรียน สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ การลดพลาสติกและโฟม การเลี้ยงไส้เดือนกำจัดขยะ และมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับผู้แทนนักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ซึ่งเป็นโรงเรียนตัวอย่างความสำเร็จเชิงประจักษ์ จากการนำแนวคิดการลดพลาสติกและโฟมที่ต้นทางมาประยุกต์ใช้จนเกิดความสำเร็จต่อเนื่อง มากกว่า 13 ปี เป็นโรงเรียนปลอดโฟมและปลอดถุงหิ้วพลาสติก ตลอดจนสามารถนำหลักความซื่อสัตย์มาประยุกต์ใช้ในการทำกิจกรรมธนาคารขยะจากการนำขยะมาที่ธนาคารพร้อมลงบัญชีด้วยตนเอง ช่วยลดข้อจำกัดเรื่องชั่วโมงว่าง และหลักศาสนา ห้ามหญิงชายอยู่ใกล้กันโดยมี นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมด้วย นายอารีฟีน เจ๊ะแม รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา นายรอซี เบ็ญสุหลง ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ผู้นำมัสยิด ผู้นำชุมชน คณะครูและนักเรียน ตลอดจนเครือข่าย ทสม. ให้การต้อนรับ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ได้กล่าวว่า ปัญหาขยะเป็นวิกฤตสิ่งแวดล้อมระดับประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งรัฐบาลได้ตระหนักและเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ภายใต้ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ.2561 - 2573 ที่จะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกลงได้ 780,000 ล้านตัน/ปี /ลดงบประมาณการจัดการขยะมูลฝอย 3,900 ล้านบาท/ปี ประหยัดพื้นที่ฝังกลบและกำจัดขยะมูลฝอยพลาสติก 2,500 ไร่ ตลอดจนลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าคาร์บอนไดออกไซด์ 1.2 ล้านตัน โดยมีเป้าหมาย นำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ ร้อยละ 100 ภายในปี 2570 ซึ่งภายในปีหน้าครบกำหนดที่พลาสติกอีก 4 ชนิด ได้แก่ ถุงพลาสติกหูหิ้วขนาดความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วน้ำพลาสติก (แบบบางใช้ครั้งเดียว) และหลอดพลาสติก (หลอดเครื่องดื่มทั่วไป) จะต้องหมดไป ซึ่งตอนนี้ โลกของเราเหลือเวลาอีกเพียง 6 ปีกว่าตามเวลาของ Climate Clock ที่หากเราทำให้อุณหภูมิโลกสูงเกิน 1.5-2 องศาเซลเซียส เราจะต้องเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างรุนแรง จึงจำเป็นที่ต้องช่วยกันลดก๊าซเรือนกระจก ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ได้เน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งและจริงจัง เชิญชวนให้ร่วมปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกคน ซึ่งศาสนสถานมีส่วนสำคัญในการเป็นแหล่งเรียนรู้และถ่ายทอดขยายผล ช่วยผลักดันให้การขับเคลื่อนด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมประสบผลสำเร็จได้ เนื่องจากเปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชนทุกคน และในภาคใต้มีจำนวนมัสยิดมากที่สุด มากกว่า 3,000 แห่ง เกินครึ่งอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนยังสามารถนำหลักศาสนามาประยุกต์ใช้ในการจัดการสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องความสะอาด ความเป็นระเบียบ การจัดการขยะ และการมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดการสิ่งแวดล้อมในมัสยิด จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการดูแลสุขภาพอนามัยทั้งกายและใจของผู้นำศาสนาและประชาชนทั่วไป
ด้าน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด บูรณาการการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งนี้ ให้ทุกกรมจัดเตรียมบุคลากร ยานพาหนะ และอุปกรณ์ในการช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ซึ่งมีการจัดตั้งศูนย์ฯ ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา