'จาร์กาตา' กำลังจะจมน้ำ? ... แล้ว'กรุงเทพฯ' ล่ะ??
'จาร์กาตา' กำลังจะจมน้ำ? ... แล้ว'กรุงเทพฯ' ล่ะ??
23 กุมภาพันธ์ 2564 บล็อก 'จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้า...' เขียนถึง อุทกภัยที่อินโดนีเซียกำลังเผชิญอยู่ว่า ....ปัจจุบันอินโดนีเซีย ซึ่งประกาศย้ายเมืองหลวงไปอยู่บนเกาะบอร์เนียว เมื่อปี 2019
โดยอินโดเนียเซียจะ #ย้ายเมืองหลวง ไปอยู่ท่ามกลางป่าธรรมชาติ ให้กลายเป็น #Green_City นึกภาพง่ายๆ จะ #ย้ายกรุงเทพฯ ไปอยู่ใน #ป่าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
คำถามคือแล้วสัตว์ป่าที่อยู่เดิมจะไปอยู่ที่ไหน? โดย #อุรังอุตังเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยบน #เกาะบอร์เนียว
ย้อนกลับมาว่า แล้วทำไม? อินโดนีเซียถึงต้องย้ายเมืองหลวงจากจาร์กาตาไปเกาะบอร์เนียว
ก็เพราะ #จาร์กาตาเป็นเมืองหลวงที่ทรุดตัวเร็วที่สุดในโลก เนื่องด้วยขาดการบริหารจัดการน้ำที่ดีพอ...ตอนนี้บางพื้นที่ทรุดตัวลงไปถึง 4 เมตร เทียบเท่ากับนักบาส NBA สูงๆ 2 คน ยืนต่อตัวกัน
และปัจจุบันจาร์กาตายังทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง 10 - 20 เซนติเมตรต่อปี ซึ่งทำให้หลายๆ พื้นที่ของจาร์กาตามีระดับต่ำกว่าน้ำทะเลแล้ว
สาเหตุหลักคือจาร์กาตามีคนอาศัยอยู่ประมาณ 10 ล้านคน แต่น้ำปะปาที่มีให้ใช้นั้น มีเพียงพอต่อประชากรประมาณ 40% แค่นั้นเอง หรือประมาณ 4 ล้านคน ...แล้วอีก 6 ล้านคน จะหาน้ำมาใช้จากไหน? ซึ่งแม่น้ำต่างๆ ก็มีแต่ #ขยะและสารพิษ
นั่นคือสาเหตุที่ประชาชนต้องขุดเจาะบาดาลเพื่อนำมาใช้ และเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยคอนกรีตก็กันน้ำฝนที่ตกไม่ให้ไหลลงไปเติมในส่วนถูกดูดขึ้นมาใช้ ทำให้เมืองทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากประชาชนแล้ว หน่วยงานเอกชนเอง เช่นห้างสรรพสินค้า โรงแรม ก็เจาะน้ำบาดาลมาใช้ สาเหตุก็เพราะฟรี
ถึงแม้ตอนนี้ใครจะมีบ้านอยู่ติดทะเลที่จาร์กาตา ก็ไม่สามารถมองเห็นทะเลได้ เพราะมีกำแพงยักษ์มาขวางน้ำทะเลไว้ เพื่อไม่ให้น้ำทะเลเข้าท่วมมากขึ้นกว่าเดิม
#ปัญหาเมืองที่ทรุดตัวลง บวกกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากปัญหาโลกร้อน นั่นเป็นสาเหตุที่จะทำให้เมืองหลวงจาร์กาตาจมไปอยู่ใต้น้ำในอนาคต
ถ้าหากยังขาดการบริหารจัดการที่ดีและไม่หยุดความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เกาะบอร์เนียวในอนาคตอาจจะกลายเป็นจาร์กาตาแห่งที่สองก็ได้
ความยั่งยืนที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การทำลายให้น้อยลง แต่หมายถึงการทำสิ่งดีๆ ให้มากขึ้นต่างหาก!!








