โทษอ่วม! เจ้าบ่าวตำรวจ จดทะเบียนซ้อน เตรียมโดนขัง
(19 ก.พ.2564) จากกรณีคลิปเหตุการณ์ในงานแต่งงานเจ้าบ่าวสวมใส่เครื่องแบบตำรวจ(ชุดพิธี) หากมีพฤติการณ์ตามข้ออ้างของภรรยาที่เคยจดทะเบียนสมรสนั้น
ความคืบหน้าในเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวของทั้งสองฝ่ายทางผู้บังคับบัญชาคงไม่ก้าวล่วง แต่กรณีเจ้าบ่าวรับราชการตำรวจสวมใส่เครื่องแบบตำรวจ(ชุดพิธี) แล้วเกิดเรื่องทำนองนี้ซึ่งเจ้าบ่าวย่อมรู้แก่ใจว่าพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง
รายงานข่าวแจ้งว่าบทลงโทษ กรณีตำรวจทำผิดเชิงชู้สาว ผู้บังคับบัญชา พิจารณาสั่งลงโทษได้ทันที โดยข้อมูล พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยวิธีการเสริมสร้างและพัฒนาให้ข้าราชการตำรวจมีวินัยและป้องกันมิให้ ข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัยพ.ศ. 2549 กำหนดมาตราฐานการลงโทษวินัยอย่างไม่ร้ายแรง และกำหนดบทลงทา ความสัมพันธ์ชู้สาวดังนี้
1.ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่น หรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยา หรือ สามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย โดนกักขัง 30 วัน
2.ได้หญิงหรือชาย เป็นภรรยา หรือ สามี แล้วไม่เลี้ยงดู เกิดเรื่องเสื่อมเสีย หรือเสียหายโดนกักขัง 30 วัน
3.จดทะเบียนสมรสซ้อน โดนกักขัง 30 วัน
4.ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป โดนกักขัง 30 วัน
5.ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในใบสำคัญการหย่าเกี่ยวกับการอุปการะบุตร ความผิดครั้งแรก ภาคทัณฑ์ ความผิดครั้งที่สอง ไม่ว่าจะเป็นการหย่ารายเดียวกัน หรือไม่ก็ตามให้ กักยาม 3 วัน และความผิดครั้งที่สาม และครั้งต่อไป กักยาม 3 วัน และพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวนม.101 พ.ร.บ ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และยังพบว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2552 แก้ไขแนวทางลงโทษทางวินัยร้ายแรง เกี่ยวกับเชิงชู้สาว ข้อ 10.1 จากเดิมว่า เป็นชู้หรือมีชู้ กับภรรยาหรือ สามีผู้อื่น(ปลดออก หรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี) เป็นชู้ หรือ มีชู้ มีพฤติการณ์เป็นชู้ หรือมีชู้กับภรรยาหรือ สมีผู้อื่น (ปลดออก หรือไล่ออกตามความร้ายแรง)ทั้งนี้ บทลงโทษต่างๆ จะต้องขึ้นอยู่กับการสอบสวนของผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด และเป็นคนสั่งลงโทษตามกฎระเบียบดังกล่าว.
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3726930300722495&id=1964681493614060