ตำรวจเมียนมายิงหัวผู้ชุมนุมปางตาย

     ชาวเมียนมาหลายแสนคน ยังคงออกมาชุมนุม ต่อต้านการทำรัฐประหาร เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในหลายๆเมือง เช่น เนปิดอว์และย่างกุ้ง ส่งผลให้ตำรวจยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อสลายการชุมนุม เฉกเช่นเมื่อวันก่อน

     ผู้ประท้วงวัย 25 ปี ทั้ง 2 คน กล่าวว่า "ถึงเราจะเป็นเพียง นักศึกษาคณะแพทย์ แต่เราก็จะช่วยคนที่ได้รับบาดเจ็บ อย่างสุดความสามารถ เราขับรถมาด้วยเพื่อเตรียมขนย้ายคนเจ็บ"

     นอกห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในย่างกุ้ง ผู้ชุมนุมเผชิญหน้ากับ สิ่งกีดขวางของตำรวจ ผู้ชุมนุมต่างร้องเพลงประท้วง บ้างสวดมนต์ แม้ว่าอากาศในวันนี้จะเย็นกว่าทุกวันก็ตาม

     ผู้ประท้วงวัย 24 ปี กล่าวว่า "เราต้องการให้ตำรวจ มาร่วมสู้กองทัพกับพวกเรา"

     ตำรวจได้ใช้กระสุนยาง และ ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง เข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

     โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองเนปิดอว์กล่าวว่า "มีการส่งตัวผู้ชุมนุม ที่ได้รับบาดเจ็บ มาทำการรักษา 2 ราย โดยรายหนึ่งเป็นหญิงสาว ถูกยิงด้วยกระสุนจริงเข้าที่ศีรษะ อาการสาหัส ส่วนอีกรายถูกยิงเข้าที่หน้าอก แต่อาการไม่รุนแรงนัก"

     แพทย์กล่าวว่า "หญิงสาวที่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ อาจมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน และ ตอนนี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ พยุงชีพเอาไว้"

     เมื่อวานนี้ ตำรวจในเมืองเนปิดอว์ ได้ขู่ใช้กระสุนจริง เพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง โดยตำรวจได้วางกำลังเป็น 3 แถว พร้อมกับชูป้ายแสดงข้อความ "เขตใช้กระสุนจริง หากผู้ชุมนุมบุกเข้ามา"

     แถมกองทัพเมียนมา ยังได้ประกาศเคอร์ฟิว ในเมืองย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ อันดับ 2 ของประเทศเมียนมา

     ภายใต้คำสั่งเคอร์ฟิว ชาวเมียนมาจะไม่สามารถ ออกมาข้างนอกบ้านได้ ในช่วงเวลา 20.00-04.00 น. และ ไม่สามารถรวมตัวกัน ได้มากกว่า 5 คน

     แต่ชาวเมียนมา ก็ยังคงพากันออกมาชุมนุม ต่อต้านเผด็จการทหาร แม้นายพล "มิน อ่อง หล่าย" จะยีนยันว่า "จะจัดการเลือกตั้งใหม่ และ จะสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง"

     นายพล "มิน อ่อง หล่าย" กล่าวย้ำว่า "รัฐบาลทหาร จะสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่มีระเบียบวินัย โดยจะแตกต่างจากการปกครอง ของทหารในอดีต"