สหรัฐเดินหน้าสนับสนุนไต้หวัน
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้จีนเข้าร่วมการเจรจา และ หยุดการกดดันทางทหารกับไต้หวัน โดยเป็นหนึ่งในมาตรการสนับสนุนไต้หวัน ของคณะบริหารสหรัฐ ภายใต้การนำของ "ปธน. โจ ไบเดน"
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก เครื่องบินทหารของจีน 13 ลำ รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด H-6K 8 ลำ บินเข้าไปยังเขตน่านฟ้าของไต้หวัน
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุว่า "เราจะยืนเคียงข้างมิตรสหายและพันธมิตร เพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคง และ คุณค่าในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงการกระชับความสัมพันธ์กับไต้หวัน อันเป็นชาติประชาธิปไตยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น"
เหตุขัดแย้งเรื่องไต้หวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ใหญ่ที่สุด ของความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีน นับแต่ยุคสงครามเย็น หลังสหรัฐยกระดับการสนับสนุน "ปธน. ไช่ อิงเหวิน" ของไต้หวัน "ปธน. สี จิ้นผิง" ของจีน ได้ตัดการสื่อสารกับไต้หวัน และ หลังจากนั้นก็ได้เริ่มการกดดันต่างๆ กับ "ปธน.ไช่" หลังจากที่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน
แถลงการณ์ของสหรัฐ เป็นการส่งสัญญาณการต่อนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนหน้า โดยรัฐบาลของอดีต "ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์" ได้เพิ่มการขายอาวุธให้ไต้หวัน และ "อเล็กซ์ เอซาร์" รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐ ได้เดินทางเยือนไต้หวันในเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว โดยนับเป็นตัวแทนระดับสูงสุดของสหรัฐ ที่เดินทางเยือนไต้หวันในรอบหลายสิบปีมานี้
"สหรัฐจะยังคงสนับสนุน การแก้ไขปัญหาอย่างสันติ โดยสอดคล้องกับความปรารถนา และ ผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนชาวไต้หวัน" กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุ พร้อมกับเสริมว่า "ความมุ่งมั่นของสหรัฐต่อไต้หวันนั้นมั่นคง และ จะมีส่วนช่วยรักษาสันติภาพ และ ขยายเสถียรภาพในเอเชีย ให้มั่นคงยิ่งขึ้น"
คณะทำงานของ "ปธน. โจ ไบเดน" ได้ส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวต่อจีน ขณะเดียวกันก็ต้องการความร่วมมือจากจีนในด้านต่างๆ เช่น ภาวะโลกร้อน
"ปธน.สี จิ้น ผิง" เตรียมกำหนดการขึ้นพูด ในการประชุม WEF ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ โดยเป็นการขึ้นพูดครั้งสำคัญ ครั้งแรกนับแต่ "ปธน. โจ ไบเดน" เข้ารับตำแหน่ง
ที่มา: http://www.taiwannews.com/