หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ การเงิน Pic Post
 
Page หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype
 
อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่
 
เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ
 
คำนวณ การเงิน ราคา BitCoin/Crypto
 
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
 
Login เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
 
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ร้านค้าโอด.. คนละครึ่ง ไม่ครอบคลุมร้านค้าในรูปแบบนิติบุคคล

ร้านค้าโอด.. คนละครึ่ง ไม่ครอบคลุมร้านค้าในรูปแบบนิติบุคคล วอนรัฐปลดล้อคเงื่อนไข เปิดกว้าง SMEs ไทยที่จ่ายภาษี ที่มีสัดส่วน 43% ของจีดีพี และเป็นแหล่งจ้างงานหลัก รักษาชีวิตธุรกิจทุกขนาด ให้ได้รับอานิสงค์นโยบายช่วยเหลือจากรัฐ

หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เริ่มบรรเทาลง ส่งผลให้ภาคธุรกิจบางสาขาเริ่มส่งสัญญาณกลับมาฟื้นตัวได้ อย่างไรก็ดี ยังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) รวมทั้งผู้ประกอบการรายย่อยที่ยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินได้อย่างเพียงพอ โดยสาเหตุสำคัญมาจากสถาบันการเงินยังไม่มั่นใจการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากมองว่าผู้ประกอบการดังกล่าวยังมีความเสี่ยงในการชำระหนี้คืน และ ทีผ่านมารัฐบาลมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีโครงการที่ได้ผล เช่นโครงการ คนละครึ่งซึ่ง ถือเป็นโครงของรัฐบาลที่ออกมาเพื่อช่วยผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนทั่วไปซึ่งรัฐจะช่วยจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไปให้ 50% เมื่อซื้อสินค้าจากร้านที่เข้าร่วม จำกัดไม่เกิน 150 บาทต่อวัน และรวมวงเงินสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน จำนวน 10 ล้านคนตลอดระยะเวลาโครงการ แต่ได้มีการกำหนดว่า ร้านค้าที่เข้าร่วมต้องไม่เป็นนิติบุคคล ทั้งที่บริษัทนิติบุคคลคือบริษัทที่จ่ายภาษีให้กับรัฐ และ กำลังตกอยู่ในภาวะลำบากเช่นเดียวกัน ซึ่งหากรัฐขยายการช่วยเหลือให้ครอบครอบคลุม ก็จะเป็นการหมุนเวียนเงินหลายรอบ และ กลับมาสู่ภาครัฐในรูปแบบของภาษีมูลค่าเพิ่ม และ ภาษีนิติบุคคลกลับมาสู่ภาครัฐ ทำให้สามารถหมุนเงินช่วยเหลือได้อีกหลายรอบ


ร้านค้าในห้างเช่น บิ๊กซี โลตัส ซีเจ เซ็นทรัล ล้วนเป็นผู้ประกอบการรายย่อย ที่มักจดทะเบียนบริษัทในรูปแบบนิติบุคคล แต่ปัจจุบันผลกระทบจากโควิด ทำให้สูญเสียรายได้จำนวนมาก และ พิษโควิด-19 ทุบร้านค้าสายป่านสั้น "อาหาร-กาแฟ-เบเกอรี่-แฟชั่น" ตัดใจปิดสาขาไม่ทำเงินในห้าง รักษาสภาพคล่อง โอดต้นทุนสูง ยอดขายไม่ดีดกลับ รายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย ขาดสภาพคล่องหนัก จ่อปิดเพิ่มรอสัญญาหมด เพราะนโยบายช่วยเหลือภาครัฐไม่ครอบคลุม ช่วยเหลือเพียงร้านค้าที่ไม่จดทะเบียนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการกำหนดเงื่อนไข หากร้านค้าในรูปแบบของเฟรนไชน์ เช่น เซเว่น แฟมิลี่มาร์ท ท๊อปส์ ที่มีเจ้าของเป็นเอสเอ็มอี ก็ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ทั้งที่เจ้าของร้านในรูปแบบเฟรนไชน์ ก็เป็นเอสเอ็มอี ทำลำบากเช่นเดียวกัน ต่างกันเพียงที่ผ่านมาจ่ายภาษีครบถ้วน แต่เมื่อยามเดือนร้อนจากโควิด ทำไมรัฐจึงเลือกช่วยเพียงบางกลุ่มเท่านั้น


ผู้ประกอบการที่อยู่ในห้าง กล่าวว่า ด้วยข้อจำกัดด้านความปลอดภัย และทำให้จำนวนที่นั่งในร้านหายไป 50-60% บางสาขากำหนดความจุไว้ 20-30 ที่นั่ง ค่าเช่าพื้นที่สูง กำลังซื้อที่ลดลง ลูกค้าน้อยลง ฯลฯ ทำให้บริษัทต้องหันมาเน้นการบริหารการจัดมากขึ้น สาขาไหนไม่ทำกำไร เปิดแล้วขาดทุน ก็ต้องปิด ดังนั้น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ควรเปิดกว้างให้ร้านค้าทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ เพื่อรักษาธุรกิจทุกระดับให้อยู่รอด อย่างไรก็ตาม ก็ชื่นชมรัฐบาลที่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ต้องครอบคลุมให้มากขึ้น

ทั้งนี้โครงการเยียวยา และ กระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐในปัจจุบันประกอบด้วย

คนละครึ่ง   :   
-  ได้รับเงินเยียวยาผ่านทางแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง"
-  ใช้ซื้อ "สินค้า" อาหารและเครื่องดื่ม
-  ใช้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ผ่านแอพฯ ถุงเงินของร้านค้า เช่น หาบเร่ แผงลอย ร้านธงฟ้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านขายสินค้าทั่วไป และกิจการ OTOP ฯลฯ
-  รัฐสนับสนุนไม่เกินวันละ 150 บาท หากใช้ไม่หมดรัฐทบให้


เราชนะ      :   
-  ได้รับเงินเยียวยาผ่านทางแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง"
-  ใช้ซื้อ "สินค้า และ บริการ"  
-  ใช้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งและเราชนะ ร้านธงฟ้า ผ่านแอพฯ ถุงเงินของร้านค้า ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าคนละครึ่ง ร้านค้าเราชนะ รถเมล์ ขสมก. รถไฟฟ้า
-   จะได้รับเงินเป็นรายสัปดาห์ สามารถทบได้ในสัปดาห์ต่อๆ ไป แยกเป็น
    1) กลุ่มบัตรคนจน ได้รับ 675-700 บาทต่อสัปดาห์ ได้รับทุกวันศุกร์
    2) กลุ่มคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน สัปดาห์ละ 1,000 บาท ได้รับทุกวันพฤหัสบดี
    3) กลุ่มที่ไม่เคยได้รับมาตรการอะไร รับสัปดาห์ละ 1,000 บาท ได้รับทุกวันพฤหัสบดี

 

ร้านค้าในรูปแบบนิติบุคคลก็จะอยู่ไม่ได้แล้วเหมือนกัน

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.facebook.com/Kodungchabu/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: jaruwanprasri
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: zerotype
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
3 อภิมหาเศรษฐีชาวไทย ที่มีทรัพย์สินมากกว่า 3 แสนล้านบาท"ปลาแสงอาทิตย์"ปลาที่น่าสงสารที่สุดในโลกเมื่อเพื่อนอวยพรแบบนี้..เจ้าบ่าวถึงกับมีสะดุ้งเลยค่าตอบแทนพนักงานขับรถทัวร์นครชัยแอร์และพนักงานต้อนรับบนรถเงินเดือนกัปตันสายการบินในไทยนักบินอวกาศ ได้เงินเดือนเท่าไหร่สถานที่ท่องเที่ยว ที่คนไทยมาเช็คอินมากที่สุดแมวที่มีอายุยืนยาวมากที่สุด เท่าที่เคยมีบันทึกไว้บนโลกเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทย ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวงามจากทวีปเอเชียคนแรก ที่ได้ตำแหน่งเป็นนางงามจักรวาลพาชมปราสาทโบราณหมีเซิน อีกหนึ่งมรดกโลกในเวียดนามตำรวจจับเจ้าของมิสยูนิเวิร์สในนิการากัว หลังสมคบคิดต่อต้านรัฐบาล
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
สาวกรีดร้องทันที ที่พบสัตว์ประหลาดสาวอังกฤษช็อก!! หลังพบหัวไก่ชุบแป้งทอด ในเมนูปีกไก่ชุบแป้งทอดเกิดเหตุภูเขาไฟอินโดนีเซียปะทุดอกเบี้ยมหาโหดชั่วโมงละ 50 บาท วอนรัฐช่วย
ตั้งกระทู้ใหม่