เปิด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง
#เปิดพ.ร.บ.คณะสงฆ์ คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณาเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๘ และ ผลการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) วันอังคาร ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ว่าด้วยกรณี "พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ"
สืบเนื่องจากการที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นำเหตุกรณี "พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ" (วัดสร้อยทอง) มีพฤติการณ์แสดงความเห็นอาจเข้าข่ายเกี่ยวข้องทางการเมือง ถวายเรื่องถึง เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาดำเนินการในทางปกครองคณะสงฆ์
ต่อมา "พระมหาไพรวัลย์" ได้โพสต์แสดงการโต้แย้งอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการกล่าวหาเรื่องการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม...ทั้งๆที่โดยข้อเท็จจริงเรื่องการห้ามพระภิกษุ สามเณร ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมือง ถือเป็นคำสั่งโดยมหาเถรสมาคมตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ แล้ว
โดย คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๘ แสดงรายละเอียดไว้อย่างชัดเจน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๕ ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ มหาเถรสมาคมจึงออกคำสั่งไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ คำสังมหาเถรสมาคมนี้เรียกว่า “คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณาเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๘”
ข้อ ๒ คำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ตั้งแต่วันใช้คำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ ให้ยแเลิกคำสั่งมหาเถรสมาคมเรื่องห้ามพระสงฆ์เกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. ๒๕๑๗
ข้อ ๔ ห้ามพระภิกษุสามเณรเข้าไปในที่ชุมนุมหรือในบริเวณสภาเทศบาล หรือสภาการเมืองอื่นใด หรือในที่ชุมนุมทางการเมือง ไม่ว่ากรณีใด ๆ
ข้อ ๕ ห้ามพระภิกษุสามเณรทำการใด ๆอันเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่การหาเสียง เพื่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาเทศบาล หรือสภาการเมืองอื่นใดแก่บุคคลหรือคณะบุคคลใด ๆ
ข้อ ๖ ห้ามพระภิกษุสามเณรร่วมชุมนุมในการเรียกร้องสิทธิของบุคคลหรือคณะบุคคลใด ๆ
ข้อ ๗ ห้ามพระภิกษุสามเณรร่วมอภิปราย หรือบรรยายเรื่องเกี่ยงกับการเมืองซึ่งจัดตั้งขึ้นทั้งในวัดและนอกวัด
ข้อ ๘ ให้พระสังฆาธิการตั้งแต่ชั้นเจ้าอาวาสขึ้นไป ผู้มีอำนาจหน้ามี่ในทางการปกครอง ชี้แจงแนะนำผู้อยู่ในปกครองเขตของตนให้ทราบคำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ และกวดขันอย่าให้มีการฝ่าฝืนละเมิด
ข้อ ๙ พระภิกษุสามเณรรูปใดฝ่าฝืนละเมิดคำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ ให้พระสังฆาธิการปกครองใกล้ชิดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตน ถ้าความผิดเกิดขึ้นนอกเขตสังกัด ให้เจ้าคณะเจ้าของเขตที่ความผิดเกิดขึ้น ว่ากล่าวตักเตือนแล้วแจ้งพระสังฆาธิการผู้ปกครองใกล้ชิดดำเนินการ
ข้อ ๑๐ ให้พระสังฆาธิการผู้มีอำนาจหน้าที่ในทางปกครองทุกชั้น ปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำสั่งมหาเถรสมาคมนี้โดยเคร่งครัด
สั่ง ณ วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๘
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์ เล่ม ๘๓ ตอนที่ ๑ : ๒๕ มกราคม ๒๕๓๘
กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๑ พ.ย. ๒๕๖๓ ที่ผ่านมา นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ชี้แจงผลการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ ๒๕/๒๕๖๓ วันอังคาร ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ว่าด้วยการมติเร่งด่วนให้ทำหนังสือแจ้งไปยังวัดทั่วประเทศ ห้ามพระภิกษุ สามเณร ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมือง หากฝ่าฝืนคำสั่งหรือมติ มส.ให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการทันที ประกอบด้วย
๑.ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แจ้งเจ้าคณะผู้ปกครองดำเนินการกับพระภิกษุสงฆ์ สามเณรที่เข้าข่ายและฝ่าฝืนคำสั่ง เรื่องห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.๒๕๓๘
๒.มีมติมอบถวายสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งเป็นประธานการรมการฝ่ายการปกครองสงฆ์ ให้วางแนวทางการป้องกัน การชุมนุมของพระภิกษุ สามเณร เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาว
๓.มีมติให้นำรายชื่อผู้ฝ่าฝืนของพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ส่งให้เจ้าคณะผู้ปกครอง เพื่อพิจารณาทางพระธรรมวินัยต่อไป
๔.ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แจ้งประสานหน่วยงานที่มีหน้าที่ทางกฎหมาย ตรวจสอบสถานะพระที่เข้าร่วมชุมนุม ทุกรูป เพื่อป้องกันพระปลอมเข้าร่วมชุมนุมเพราะจะทำให้ศาสนา เกิดความเสียหาย
สรุปความชัดเจนว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ต่อ "พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ" จึงเป็นไปตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เมื่อวันที่ ๑๐ พ.ย. ๒๕๖๓ และ คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษึสามเณาเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๘ โดยชอบธรรมทุกประการ