เรื่องมันเศร้า! ยอดฆ่าตัวตายช่วงโควิด-19 ระบาดรอบ 2 ในญี่ปุ่นกลับมาพุ่ง หญิงฆ่าตัวตายมากกว่าชาย
สถาบันมหานครโตเกียวแห่งพฤฒาวิทยา (การศึกษาเกี่ยวกับชีวิตวัยชรา) กับฮ่องกงมหาวิทยาลัย เปิดเผยผลการศึกษาพบว่า อัตราการฆ่าตัวตายในประเทศญี่ปุ่นช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม ซึ่งอยู่ในช่วงภาวะการระบาดของโรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 2 ซึ่งกลับมาเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2563 ซึ่งอยู่ในช่วงภาวะการระบาดของโรคระบาดโควิด-19 รอบแรก นอกจากนี้ ยังเป็นอัตราการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมในปีนี้ ที่มีอัตรา 14%
ผลการศึกษาดังกล่าวที่เปิดเผยโดยนักวิจัยจากทั้ง 2 สถาบัน ยังพบว่า เมื่อเทียบกับช่วงภาวะปกติ โรคระบาดโควิด-19 มีผลกระทบกับสุขภาพจิตของเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้หญิงโดยเฉพาะแม่บ้าน ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายนของปีนี้ ที่มีอัตราการฆ่าตัวตายที่ 14% ซึ่งลดลงจากช่วง 4 เดือนถัดมานั้น มีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น การได้รับการช่วยเหลือเกี่ยวกับมาตรการอุดหนุนจากรัฐบาล การลดจำนวนชั่วโมงทำงาน และสถาบันการศึกษาปิดการเรียนการสอน ซึ่งทั้งหมดเกิดจากมาตรการรักษาระยะห่างในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด
แต่อัตราการฆ่าตัวตายกลับมาเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงฆ่าตัวตายสูงขึ้น 37% ซึ่งมากกว่าผู้ชายถึง 5 เท่า สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ยืดเยื้อต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบภาคอุตสาหกรรมที่มีผู้หญิงทำงานเป็นจำนวนมาก คุณแม่วัยทำงานมีภาระเพิ่มสูงมากขึ้น ท่ามกลางความรุนแรงในสังคมมีขึ้นต่อเนื่อง
สิ่งที่น่าสนใจต่อมา คือผลการศึกษาเกี่ยวกับอัตราการฆ่าตัวตายในวัยเด็ก จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ญี่ปุ่น ช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2016 ถึงเดือนตุลาคมปี 2020 พบว่าเด็กฆ่าตัวตายเพิ่มสูงถึง 49% ในภาวะการระบาดรอบที่ 2 ของโรคโควิด-19 ซึ่งพบเห็นมากหลังจากมาตรการสั่งปิดสถาบันการศึกษาทั่วประเทศญี่ปุ่น #ฆ่าตัวตาย
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/btimesch3/photos/a.382615345437670/1310335425998986/