พ่อจ๋าแม่จ๋าหนูติดยาหนูขอโทษ นิยายจากชีวิตจริงของ"ชาริสา"
เรื่องราวชีวิตจริงของชาริสา ที่ไม่คิดว่าชีวิตหนึ่งจะติดยา!!
ย้อนกลับไปในตอนที่สายังเป็นเด็กภาพในความทรงจำของสาที่จำได้ก็จะมีแต่ภาพความรุนแรงในครอบครัว พ่อมักจะทุบตีทำร้ายร่างกายแม่อยู่เสมอ จนในที่สุด
พ่อและแม่ของสาก็ต้องแยกทางกัน
แม่หนีกลับไปอยู่ที่บ้านของยายหลายวันทิ้งให้สาอยู่กับพ่อ ด้วยความเป็นเด็ก
ของสาในตอนนั้นจึงถามพ่อไปว่า
" แม่ไปไหน "
พ่อได้แต่ตอบว่า..
" พ่อไม่รู้ "
สายตาของเด็กน้อยก็ยืนจ้องมองดูพ่อจัดเสื้อผ้าเก็บใส่กระเป๋า สารู้ดีว่าพ่อกำลังจะทิ้งเขาไปในไม่ช้า..
พ่อเรียกรถมารับไปที่ขนส่งในช่วงเย็นของวันต่อมา สาเด็กน้อยที่กำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านอย่างมีความสุขนั้นก็ต้องหยุดความสุขนั้นลงเพราะเขาเห็นพ่อถือกระเป๋าเสื้อผ้าที่พ่อเขาจัดไว้เมื่อวาน และกำลังจะเดินไปขึ้นรถ สารีบวิ่งเข้าไปหาพ่อทันที
สากอดแขนพ่อไว้แล้วถามพ่อว่า
" พ่อจะไปไหน "
พ่อบอกกับสาว่า
" พ่อจะเข้าไปหางานทำที่กรุงเทพ "
สามีพี่สาวคนหนึ่งพี่รัช พี่สาวของสาเขากำลังเป็นวัยรุ่นใช้ชีวิตเป็นเด็กหอ เลยไม่รู้ว่าพ่อทิ้งเราไปแล้ว สามองตามท้ายรถที่พ่อนั่งอยู่ขับออกไปด้วยสายตาเศร้าหมอง
ตะวันเริ่มตกดินท้องฟ้าเริ่มเปลื่ยนสีมืดคลึ้ม สาหันกลับไปมองที่บ้านที่มันเคยมีพ่อแม่
พี่สาวและสาอยู่ด้วยกันทุกวันนั้น ในตอนนี้
บ้านมันเงียบสะหงัด ความรู้สึกมันเริ่มเคว้งอย่างบอกไม่ถูก มองไปทางไหนก็ไม่เห็นใครสาไม่เหลือใครแล้วจริงๆ ด้วยความไร้เดียงสาของเด็ก สาคิดแค่ว่าเดียวก็คงมีคนกลับมาบ้านสักคนหนึ่งแหล่ะ สาเลยไปนั่งอยู่หัวบันใดบ้านเพื่อรอว่าจะมีใครกลับมาหาบ้างไหม รอเเล้วรอเล่าก็ไม่เห็นใคร ก็มีแต่อาลำดวลที่เป็นน้องสาวของพ่อสา ที่รู้ข่าวว่าพ่อสานั้นขึ้นรถไปกรุงเทพแล้ว อาลำดวลรีบมาดูสาทันทีอาลำดวลเข้ามาจับเเขนสาแล้วพูดว่า
" กินข้าวหรือยังเดี๋ยวอาจะพาสาไปอยู่กับแม่ที่บ้านยาย "
สาไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ไม่มาหาสาที่บ้านล่ะ ทำไมอาลำดวลต้องพาสาไปหาแม่ด้วย แต่สาก็ตามอาลำดวลไปจนถึงบ้านของยาย สาเข้าไปหาแม่ที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายวัน อาลำดวลบอกกับแม่ไปว่า
"พ่อทิ้งสาไปกรุงเทพแล้ว "
แม่ก็ไม่รู้มาก่อนว่าพ่อจะทิ้งสาไป และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาสาก็ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ที่บ้านของยาย แม่ของวาทำงานรับจ้างหาเช้ากินค่ำทุกวัน จนเวลาผ่านไปเกือบปีพ่อของสาก็ติดต่อกลับมา พ่อส่งปากกาไฮไลท์หลากสีพร้อมกับเขียนจดหมายมาถึงสาว่า
" พ่อคิดถึงลูกเสมอ พ่อต้องมาทำงานหาเงินสร้างบ้านใหม่ของเรา "
สาดีใจที่ได้รับจดหมายและของชิ้นแรกที่พ่อส่งมาให้ และนับแต่นั้นมาพ่อก็ติดต่อกลับมาหาสาบ่อยขึ้น สาตื่นเต้นอีกครั้งที่พ่อบอกว่าพ่อจะส่งมือถือมาให้ พ่อส่ง
มือถือNokia1110iมาให้ ต้องบอกเลยว่าสาเป็นเด็กคนแรกของหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ที่มีมือถือใช้เป็นของตัวเอง และในสมัยนั้นค่าโทรก็เเพงมากแต่พ่อก็โทรคุยกับสาทุกวัน
พ่อใช้เวลาเก็บเงินอยู่3-4ปีจนพ่อบอกข่าวดีว่า
"พ่อลางานจะกลับบ้าน"
สาตื่นแต่เช้ามารอรับพ่อที่หน้าบ้าน พ่อลงรถรับจ้างมา สาวิ่งไปกอดพ่อด้วยความดีใจภาพในวันที่พ่อทิ้งสาไปก็หวนกลับเข้ามาในหัว สากอดพ่อแล้วร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงอย่างสุดหัวใจ
เวลาผ่านไปหลายปีสาเริ่มเข้าสู่วัยมัธยมต้นสาเข้าเรียนในโรงเรียนไกล้บ้านในชั้นม.1 แม่ยังคงทำงานหนักรับจ้างทุกๆวันในทุกฤดูของการทำไร่ทำนา แม่สร้างบ้านหลังเล็กๆ ตรงที่ว่างข้างๆบ้านของยายเป็นบ้านไม้กระต๊อบแค่พออาศัยอยู่ได้อาจจะลำบากบ้างในช่วงหน้าฝนเพราะเวลาตอนกลางคืนฝนมักสาดเข้ามา เราสองคนแม่ลูก ต้องคอยเอาถังน้ำมารองน้ำฝนที่หยดลงมาจากรูรั่วบนหลังคา คอยขยับผ้าห่มหมอนที่นอนมาใว้อีกฝั่งที่ไม่เปียกเพราะเวลาฝนสาดเข้ามาที่ฝาข้างบ้างน้ำฝนมักจะกระเด็นเข้ามาในบ้านเสมอ แต่มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดถึงแม้ว่าบ้านเราจะจนก็ตาม สาใช้ชีวิตเด็กมัธยมอย่างเรียบง่ายอยู่ในกรอบ และกฎเกณฑ์เสมอมา แม่เริ่มมีสามีใหม่ในช่วงที่สาไกล้จะเรียนจบม.3 สาตั้งใจเรียนมาตลอดไม่เคยมีประวัติการเรียนที่ติด 0 ติด ร.ถึงแม้ว่าเกรดจะอยู่แค่ 2.75 ก็ตาม แต่ก็มาดันพลาดในช่วงม.3เทอม2
ในวิชาเกษตร ที่ต้องมีการพรวนดินขึ้นแปลงปลูกหอม ซึ่งสาไม่เคยทำและไม่รู้มาก่อนว่า หัวหอมที่แกะออกมาเป็นกลีบเล็กๆแล้วนั้นเวลาจะปลูกเค้าให้เอาหัวด้านรากปักลงดิน สาปลูกมั่วไปหมดจนผลออกมาคือหอมที่ปลูกไม่ขึ้นต้นเลยทั้งแปลง สาจึงติด 0 วิชาเกษตรไปตามระเบียบ แต่สาก็รีบแก้ทันทีจนเรียนจบชั้นมัธยมต้น
สาตัดสินใจเรียนต่อสายอาชีพในวิทยาลัยแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัด สาเลือกที่จะอยู่หอพักในของวิทยาลัยซึ่งต้องจ่ายแค่เดือนละไม่ถึง500บาท ต่างจากหอนอกที่ห้องเดือนละ1500บาทไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ
ในวันเปิดเทอมมาวันแรกก็มีแม่และพี่สาวเหมารถกระบะเพื่อขนของเข้ามาอยู่หอ
ทุกคนจะเรียกหอในนี้ว่าหอนานาชาติ
เพราะว่ามีนักศึกษาที่เป็นชาวเขาหลายชนเฝ่าเลยมีหลายภาษา และแล้วเริ่มมีปัญหาตั้งแต่อาทิตย์แรกที่อยู่หลายเรื่อง ในเรื่องของกฎหอที่ครูผู้ดูแลหอจะต้องมีการเข้ามาตรวจห้องอาทิตย์ละ1ครั้งเพื่อดูควาสะอาดผ้าปูที่นอนต้องตึง ผ้าห่มต้องพับ
ให้เรียบร้อย ห้องต้องเป็นระเบียบ และประตูหอพักที่เป็นลูกกรงตรงหน้าบันใดทางจะจะถูกเปิดในตอนเช้าเวลา6โมงครึ่งและปิดเวลา8โมงในตอนเช้า ก่อนจะปิดครูผู้คุมหอจะขึ้นไปตรวจตามห้องดูว่าห้องไหนไม่มีกุญแจคล้องล็อคหน้าห้องแสดงว่าห้องนั้นไม่ได้ออกไปเรียกครูจะเคาะประตูแล้วไล่ลงไปเรียนทันที ประตูหอจะเปิดอีกรอบในช่วงบ่าย2โมงครึ่ง เพราะนั้นคือเวลา
เลิกเรียน จะปิดอีกที2ทุ่มครึ่ง สาพอรับกับกฎระเรียบนี้ได้ จนถึงอาทิตย์สุดท้ายก่อนสิ้นเดือนมีพายุลมฝนกระหน่ำในคืนนั้น ทุกคนในหอต้องตื่นและลุกขึ้นและออกมารวมตัวกันที่ชั้น5เพราะประตูทุกบานของชั้น6ที่ถูกปิดตายนั้นมันโดนลมพัดทำให้ประตูเปิดไปโดนผนังห้องเสียงดังสะนั่นตึงตัง
ครูผู้คุมหอบอกให้ทุกคนช่วยกันไปปิดประตูชั้น6ให้หมดแต่ทุกคนก็เกี่ยงกันไม่มีใครอยากจะขึ้นไปก็เพราะว่าตำนานที่รุ่นพี่เล่าต่อๆกันมาว่า ที่ชั้น6ปิดตายก็เพราะมีรุ่นพี่บัญชีปี2คนหนึ่งท้องแล้วทะเละกับแฟนเรื่องที่แฟนไม่ยอมรับว่าเป็นว่าเขาทำ รุ่นพี่คนนั้นเสียใจมากเลยฆ่าตัวตายที่หอนี้...
และเหตุการณ์ในคืนนั้นก็ไม่มีใครกล้าขึ้นไปจนถึงเช้า สาตื่นเตรียมจะไปอาบน้ำที่ห้องน้ำรวมก็พบว่า น้ำเป็นสีแดงสนิ๋มเนื่องจากปั้มน้ำที่สูบน้ำขึ้นมาใช้ทุกชั้นบนหอเป็นน้ำจากบึงที่อยู่หลังหอนั้นเองเพราะลมฝนพายุเมื่อคืนเลยทำให้น้ำสกปรก สาตัดสินใจไม่อาบน้ำ สาแต่งตัวเสร็จ ถือไม้แปรงฟันยาสีฟันลงไปล้างหน้าที่ก๊อกน้ำ
โรงอาหาร เหตุการณ์เรื่องน้ำภายในหอยังไม่จบ !!
ปั้มน้ำส่งน้ำขึ้นมาไม่ถึงชั้น4และชั้น5สาที่อยู่ชั้น5เลยลงไปเพื่อจะอาบน้ำที่ชั้น3
ทุกคนในชั้น3ก็เริ่มทำหน้าไม่พอใจที่มีคนจากชั้น4ชั้น5ลงมาแย่งพวกเขาอาบน้ำสีแดงสนิ๋ม แต่เพื่อความอยู่รอดสาต้องทนอาบน้ำสีแดงสนิ๋มแบบนั้น คิดในใจแค่ว่าเหลืออีก2วันเองก็จะได้กลับบ้านแล้วทนหน่อยละกัน
จนถึงวันสุดท้ายก่อนกลับบ้านในตอนเช้าทุกคนก็ต้องตกใจเพราะในห้องน้ำเกือบทุกชั้นน้ำไม่ไหล กองอุจระลอยเต็มโถส้วม มันเป็นเช้าที่แย่อีกวันหนึ่งเลยก็ว่าได้ สาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมใครหลายๆคนถึงอยากอยู่หอนอกมากกว่า ด้วยเรื่องของกฎหอในที่เยอะและระเบียบจัด ห้องน้ำที่ต้องใช้รวมแถมยังใช้งานไม่ค่อยจะได้อีก สาทนอยู่หอในจนครบเดือน สากลับมาคุยกับแม่เรื่องขอย้ายมาอยู่หอนอกทันที แม่สาก็ตกลงสากับเพื่อนสองคนก็ย้ายมาอยู่หอด้วยกันเพื่อเเชร์ค่าห้องคนละครึ่ง จนปิดเทอม1 สาย้ายหอมาอีกที่หนึ่งในเทอม2 แต่ก็ได้รู้ความจริงว่าตำนานรุ่นพี่ชั้น6ที่เล่าลือต่อกันในหอพักในนั้น ความจริงแล้วมันคือเรื่องจริงของหอที่สาย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ต่างหาก
สาสายเผือกจึงต้องไปสือหาความจริง !!
เหตุการณ์เมื่อ6ปึก่อน รุ่นพี่บัญชีปี2คนหนึ่งทะเละกับแฟนทางโทรสัพท์ เรื่องที่เขาท้องส่วนเเฟนของเขากลับไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อเด็กแถมยังบอกให้ไปเอาเด็กออกอีก รุ่นพี่บัญชีปี2ร้องให้เสียใจ เขานั่งอยู่ที่หน้าห้องน้ำ พร้อมกับสายเข็มขัดของวิทยาลัยที่คล้องห้อยไว้กับลูกบิดประตู รุ่นพี่บัญชีปี2 เอาคอคล้องบ่วงสายเข็มขัดที่ห้อยใว้ตรงลูกบิดประตูห้องน้ำ แล้วเขาก็ร้องไห้เสียใจจนหลับไปโดยที่คอของเขายังคล้องอยู่ในบ่วงสายเข็มขัด เขาโน้มตัวก้มลงทำให้สายเข็มขัดรัดคอขาดอากาศหายใจตายคาห้อง B4 ชึ่งหลังจากเหตุการนั้นไม่นานหอนี้ก็ไปเป็นปีก่อนที่จะเปิดใหม่อีกครั้งและห้อง B4 ก็ถูกเช่าไปโดยนักศึกษาชายคนหนึ่งเขาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องย้ายออกไปเพราะทุกๆคืนที่เขานอน เขามักจะได้ยินเสียงคนเดินอยู่ในห้อง บางครั้งก็ได้ยินเสียงเหมือนกับว่ามีใครกำลังเลื่อนโต๊ะอยู่ หอนี้เลยปิดตายห้องB4 พร้อมกับลงยันต์ติดผ้าแดงตอกตะปูไว้ที่หน้าห้อง ส่วนแฟนของรุ่นพี่บัญชีปี2 ก็เรียนไม่จบออกเรียนกลางคัน มีคนบอกว่าแฟนของเขานั้นรู้สึกว่ามีคนตามตลอดเวลา แฟนของรุ่นพี่บัญชีปี2คนนี้เลยไปบวดเป็นพระจำวัดอยู่ได้2ปีพอศึกออกมาไม่ถึงวันก็ขับนรถชนประสานงานกับรถสิบล้อดับคาที่ ( 1)
จบกันไปแล้วสำหรับตอนที่1สำหรับใครที่อยากรู้เรื่องราวต่อจากนี้ว่าจะเป็นยังไง รอติดตามคอมเม้นต์ไว้น่ะค่ะ
ขอบคุณ














