ล็อกประเทศ! อังกฤษ ประกาศปิดประเทศทั้งสหราชอาณาจักร นาน 45 วัน

ล็อกประเทศ! ประกาศปิดประเทศทั้งสหราชอาณาจักร นาน 45 วัน ห้ามออกจากบ้าน-ปิดโรงเรียน-ปิดสถานที่ออกกำลังกาย-ต้องสั่งอาหารกลับบ้าน ฉีดวัคซีนเข็มแรกในอังกฤษแล้ว

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจทั่วสหราชอาณาจักร เมื่อเวลา 20.00 น. (ตามเวลาอังกฤษ) ประกาศมาตรการปิดล็อกประเทศทั้งสหราชอาณาจักร ซึ่งมีผลในวันอังคารที่ 5 มกราคม (ตามเวลาในอังกฤษ) ไปถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ หรือยาวนานถึง 1 เดือนครึ่ง สาเหตุจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พุ่งสูงอย่างรุนแรง และต่อเนื่องทุกวัน โดยเฉพาะจำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 พุ่งขึ้นมากว่าวันละ 50,000 เป็นวันที่ 7 ติดกัน ทำสถิติการติดเชื้อเกินกว่าวันละ 50,000 คน ที่ยาวนานอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่เกิดการระบาดในสหราชอาณาจักรเป็นต้นมา นอกจากนี้ สถานการณ์ในโรงพยาบาลทุกแห่งตกอยู่ในสภาพวิกฤตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่เกิดการระบาดในสหราชอาณาจักรเป็นต้นมา

ภาวะการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันนี้ 5 มกราคม พบว่ามีผู้ติดเชื้อทะยานสูงถึง 58,784 ราย ทำสถิติติดเชื้อรายวันครั้งประวัติการณ์ครั้งใหม่ ส่งผลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งเป็น 2,713,563 ราย อยู่อันดับ 5 ของโลก และเป็นอันดับที่ 2 ของยุโรป ขณะที่ผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้นอีก 407 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 75,431 ราย อยู่อันดับที่ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ในยุโรป

มาตรการปิดล็อกประเทศทั้งสหราชอาณาจักรในครั้งนี้ มีรายละเอียด ดังนี้ ห้ามประชาชนออกจากที่อยู่อาศัย ยกเว้นมีความจำเป็นอย่างที่สุด ปิดสถาบันการศึกษาทุกระดับจนกระทั่งถึงช่วงปิดกลางเทอมในเดือนกุมภาพันธ์ โดยให้เรียนผ่านระบบออนไลน์ ร้านอาหารให้เปิดบริการเฉพาะสั่งและไปส่งที่บ้านเท่านั้น ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ปิดสถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้งทุกประเภท ยกเว้นสนามเด็กเล่นกลางแจ้งยังคงเปิดได้ และอนุญาตให้ยังคงมีการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีค แต่ไม่อนุญาตให้มีการแข่งขันฟุตบอลระดับสมัครเล่น

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงต่อไปว่า รัฐบาลจะเริ่มการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดย 4 กลุ่มสำคัญแรกที่จะได้รับการฉีดวัคซีนเป็นอันดับแรก ได้แก่ บุคลากรสาธารณสุขที่ดูแลผู้สูงอายุ ประชาชนทุกคนที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่การแพทย์และพยาบาลแถวหน้า และพนักงานรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ปฏิบัติงานเสี่ยงสูง โดยจะได้รับการฉีดวัคซีนคนละ 1 โดส ในกลางเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ จะมีจำนวนประชาชนราว 13.9 ล้านคนใน 4 กลุ่มดังกล่าวที่จะได้รับการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เข็มแรกในอังกฤษ ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อวานนี้กับนายไบรอัน พิงเกอร์ ชายอาวุโสอายุ 82 ปี ซึ่งเกษียณการทำงานในตำแหน่งผู้จัดการซ่อมบำรุง ได้รับการฉีดวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทเวชภัณฑ์แอสตร้าเซเนก้า กับมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด

สำหรับสถานการณ์โรงพยาบาลในสหราชอาณาจักร พบว่า เข้าขั้นวิกฤตจากจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคระบาดโควิด-19 เมื่อเวลา 15.00 น.(ตามเวลาประเทศไทย) ของวันที่ 4 มกราคม มีจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลมากถึง 26,626 รายในประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นจำนวนผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสูงถึง 30% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นับตั้งแต่วันคริสต์มาสปีที่แล้วเป็นต้นมา จำนวนผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 ในโรงพยาบาลพุ่งขึ้น 50% ส่งผลให้ 3 ใน 10 เตียงผู้ป่วย หรือราว 30% ของเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่อังกฤษ คือผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 ในบางแห่งนั้น จำนวนเพิ่มเป็น 6 ใน 10 เตียง หรือ 60% ของเตียงเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 ความน่ากังวลจะอยู่ที่เกือบ 3 สัปดาห์หลังจากประกาศมาตรการปิดล็อกประเทศ จะพบจำนวนผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 พุ่งสะสมขึ้นสูงสุดในโรงพยาบาล เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในการประกาศปิดล็อกสหราชอาณาจักรทั้งประเทศในครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมในปีที่ผ่านไป

ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมเป็นต้นมา มีจำนวนมากกว่าวันละ 50,000 ราย เริ่มจากวันที่ 29 พบ 53,135 ราย วันที่ 30 ติด 50,023 ราย วันที่ 31 เจอ 55,892 ราย วันที่ 1 มกราคม พบ 53,284 ราย วันที่ 2 ติด 57,725 ราย วันที่ 3 เจอ 54,990 ราย และวันที่ 4 พบติดเชื้อ 58,784 ราย