อินโดนีเซียได้รับการยอมรับจากสหรัฐฯ สำหรับการซื้อ

เครื่องบินขับไล่ F-15 และ F-18

 

จาการ์ตา - สหรัฐฯ ระบุว่า "จะขายเครื่องบินขับไล่

แบบ F-15 และ F-18 ให้กับอินโดนีเซีย" หลังจาก

มีการประชุมร่วมกันหลายเดือน ระหว่างเจ้าหน้าที่

กลาโหมระดับสูงจากทั้งสองประเทศ" ตามรายงาน

ของเจ้าหน้าที่กลาโหมในจาการ์ตา

นายคริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ (รักษาการ)รัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้พบกับนายปราโบโว

ซูเบียโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย

และในระหว่างการประชุมดังกล่าว นายมิลเลอร์ตกลง

ที่จะขายเครื่องบินขับไล่ 2 แบบให้กับอินโดนีเซียที่มี

ต้องการทดแทนฝูงบิน F-16A/B ที่มีอายุมากแล้ว

นอกจากนี้ นายมิลเลอร์ ยังได้พบกับ พลอากาศเอก

Hadi Tjahjanto ผู้บัญชาการกองกำลังกองทัพของ

อินโดนีเซีย และหารือเกี่ยวกับ "แผนการเพิ่มขั้นตอน

การฝึกร่วมระหว่างกองกำลังของทั้งสองประเทศ"

"ทุกอย่างเป็นเพียงเรื่องของความพร้อมในการจัดหา

งบประมาณ" นาย Rodon Pedrason ผู้อำนวยการ -

ทั่วไปด้านยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของกระทรวง

กลาโหมอินโดนีเซีย ( Director-general of defense

strategy at Indonesia's Defense Ministry ) กล่าวว่า

"ตอนนี้ยังไม่มีการลงนามในข้อตกลงใดๆ"

ทั้งนี้ อินโดนีเซียได้ผลักดันให้สหรัฐฯ ขายบ.ขับไล่

แบบ F-15, F-18 และ F-35 แต่ในที่สุด ก็ตกลงกัน

เพียง 2 แบบ เนื่องจากการจัดหา F-35 อาจใช้เวลา

ถึง 10 ปีในการส่งมอบ. นาย Pedrason ได้กล่าวว่า

"บ.ขับไล่แบบ F-15 และ F-18 ต่างก็ผลิตโดยบริษัท

เดียวกันคือบริษัท Boeing ( ซึ่งได้ควบรวมกับบริษัท

McDonnell Douglas ผู้ผลิตเดิม )

ในขณะเดียวกัน ประเทศมหาอำนาจทางยุโรป เช่น

ฝรั่งเศส, อังกฤษ เยอรมนี และกองกำลัง NATO ก็

ได้เข้าหาอินโดนีเซียเมื่อเร็วๆ นี้เช่นกัน เพื่อหารือ

เกี่ยวกับเรื่องทะเลจีนใต้ โดยนาย Pedrason กล่าวว่า

นาย Subianto มีกำหนดจะไปเยือนอังกฤษในต้นปีหน้า

หลังจากที่ได้ทำการเยี่ยมชมมากกว่า 20 ครั้งในปีที่-

ผ่านมา เพื่อ "ค้นหาข้อตกลงด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดี"

รวมถึงในฝรั่งเศส, รัสเซีย, ตุรกี และ จีน ด้วย

นาย Pedrason กล่าวว่า "กระทรวงกลาโหมภายใต้

การนำของนาย Subianto มี "แผนการที่ยิ่งใหญ่"

ในการจัดหา "เครื่องบินขับไล่ที่เหนือกว่า 100 ลำ

( Procuring more than 100 superior fighter jets )"

เพื่อเพิ่มจำนวนให้กับฝูงบินขับไล่ในทอ.อินโดนีเซีย

ที่มีจำนวนน้อยกว่า 60 ลำในปัจจุบัน" ประเทศเราจะมี

เครื่องบินขับไล่ราว 170 ลำในตอนท้าย ซึ่งจะเป็น

เรื่องน่าอัศจรรย์สำหรับเรา" นาย Pedrason กล่าว

แต่นาย Pedrason ก็ไม่ได้บอกว่า "แผนการของ -

อินโดนีเซียจะบรรลุเป้าหมายเมื่อใด.." แต่เสริมว่า

"อินโดนีเซียหวังว่าจะจัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์ใหม่

โดยใช้งบประมาณราวๆ 9,000-11,000 ล้านดอลลาร์

ในอีก 20 ปีข้างหน้า ( ประมาณ 270,500-330,640

ล้านบาท )" เขากล่าวว่า "อินโดนีเซียกำลังวางแผน

ที่จะรับข้อเสนอ "เงินกู้จากประเทศต่างๆ" เช่น ตุรกี

ฝรั่งเศส, จีน และ รัสเซีย ฯลฯ"

เนื่องจากข้อตกลงสำหรับเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่อาจ

ต้อง "ใช้เวลาหลายปี" กว่าจะบรรลุผล อินโดนีเซียจึง

วางแผนที่จะ "ซื้อเครื่องบินใช้แล้ว" เช่น บ.ขับไล่แบบ

Eurofighter Typhoon ซึ่งสามารถ "ส่งมอบได้เร็ว

กว่าการจัดซื้อเครื่องบินใหม่มาก" รายงานก่อนหน้านี้

ระบุว่า "นาย Subianto สนใจที่จะซื้อเครื่องบิน 15 ลำ

ดังกล่าว จากประเทศออสเตรีย."

นาย Pedrason กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "แผนการจัดหา

เครื่องบิน Eurofighter Typhoon ที่เงียบๆ ไปตอนนี้

เป็นเพียงการหยุดชะงักชั่วคราว ( The plan was only

a stopgap ) เท่านั้น"

"เป็นเรื่อง-เร่งด่วนที่สุด-สำหรับเราในตอนนี้ที่จะต้อง

มีอาวุธที่สามารถ "สร้างสมดุล [อำนาจ]" กับประเทศ

คู่กรณี ( Red Dot ) ที่อยู่ใกล้เราได้" นาย Pedrason

กล่าวเสริมโดยอ้างว่า "ไม่ใช่แค่เรื่องทะเลจีนใต้เท่านั้น

แต่ยังรวมถึง "ข้อพิพาทพรมแดนที่เก่าแก่" ของเรา

กับมาเลเซีย และ สิงคโปร์ ที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย"

นาย Pedrason กล่าวว่า "ตอนนี้กระทรวงกลาโหมกำลัง

วางแผนที่จะซื้อ

- เครื่องบินลำเลียง C130J Hercules และ C130H

( ผลิตโดยบริษัท Lockheed Martin ตลอดจน )

- โครงการจัดหาเรือดำน้ำ

- โครงการจัดหา "เรือตรวจการณ์ ( Patrol vessels )

เพิ่มจำนวนหลายลำ ฯลฯ "

นาย Pedrason กล่าวสรุปว่า "กระทรวงกลาโหมกำลัง

วางแผนที่จะ "ฝึกนักบินขับไล่ไอพ่นมากถึง 300 นาย"

และ "สร้างนักบินจำนวน 100 คน สำหรับบ.ลำเลียงแบบ

C130 Hercules ในอีก 2 ปีข้างหน้า

Photo Credit :

- 3DJake

- Fortune

- Boeing

https://asia.nikkei.com/.../Indonesia-gets-US-nod-for-F...