"ปูติน" สยบศึก นากอร์โน-คาราบัค ส่งทหาร -ยุทโปกรณ์ เข้าคุมพื้นที่แล้ว
"ปูติน" สยบศึก นากอร์โน-คาราบัค ส่งทหาร -ยุทโปกรณ์ เข้าคุมพื้นที่แล้ว
11 พ.ย.2563 กลับมาติดตามความเคลื่อนไหวความขัดแย้งระหว่างอาร์เมเนีย และ อาเซอร์ไบจาน กันอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งสองประเทศนั้นเข้าสู่สภาวะสงคราม มีการจับอาวุธ เข้าสู้รบ อย่างต่อเนื่องมาเกือบ 2 เดือน ล่าสุดนั้นทางด้านสื่อต่างประเทศ ได้รายงานข่าวว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย, ประธานาธิบดี อิลฮัม อาลีเยฟ ผู้นำอาเซอร์ไบจาน และ นายกรัฐมนตรี นิโคล ปาชินยาน ผู้นำของอาร์เมเนีย ได้ร่วมลงนามข้อตกลงสันติภาพซึ่งมีรัสเซียเป็นตัวกลางเจรจาในวันอังคารที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อยุติการการสู้รบบนดินแดนพิพาท นากอร์โน-คาราบัค
ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินยืนยัน ว่า อาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานตกลงหยุดยิง เพื่อเปิดทางให้แก้ไขความขัดแย้งในดินแดนนี้ในระยะยาว ทั้งสองชาติจะปักหลักในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของแต่ละชาติ และทหารรักษาสันติภาพของรัสเซียจะถูกส่งมารักษาการณ์ในเขตเชื่อมต่อระหว่างดินแดนนากอร์โน-คาราบัคกับพรมแดนอาร์เมเนีย
ตามข้อตกลง รัสเซียจะส่งทหารไปประจำการในภูมิภาคดังกล่าวอย่างน้อย 2,000 นาย พร้อมกับรถหุ้มเกราะอีก 90 คัน เพื่อคุ้มกันเส้นทางลาชิน ซึ่งเชื่อมเมือง สเตพานาแกร์ต เมืองหลวงของคาราบัค กับอาร์เมเนีย เป็นเวลา 5 ปี ขณะที่ตุรกีซึ่งประกาศตัวอยู่ฝ่ายอาเซอร์ไบจาน จะเข้าร่วมภารกิจรักษาสันติภาพนี้ด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาจะมีบทบาทอย่างไร ซึ่งล่าสุดนั้นตามรายงานข่าว พบกว่าทางด้าน เครื่องบินทหาร อิล-76 หลายลำพาทหารรักษาสันติภาพชุดแรกพร้อมยุทโธปกรณ์ออกเดินทางจากรัสเซียแล้ว
นอกจากข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าวแล้ว ผู้นำรัสเซีย ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทั้งสองประเทศจะมีการแลกเปลี่ยนนักโทษสงคราม และปลดล็อกข้อตกลงด้านการเดินทางและเศรษฐกิจทั้งหมดเพื่อเข้าสู่สันติภาพอย่างแท้จริง
สำหรับความขัดแย้งบนพื้นที่นากอร์โน-คาราบัค นั้น ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนาน เนื่องจากอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 1922 และล่มสลายไปเมื่อปี 1991
ทั้งสองประเทศตั้งอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้หรือภูมิภาคที่ชื่อว่าคอเคซัส ซึ่งมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์มาก เนื่องจากฝั่งตะวันตกอยู่ติดกับตุรกี อิหร่านอยู่ทางใต้ จอร์เจียอยู่ทางเหนือ รัสเซียก็อยู่ทางตอนเหนือของทางด้านอาเซอร์ไบจาน
ประชาชนส่วนใหญ่ในอาร์เมเนียเป็นชาวคริสต์ ส่วนอาเซอร์ไบจานซึ่งร่ำรวยจากการค้าน้ำมันเป็นชาวมุสลิม
สมัยสหภาพโซเวียต ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัคมีชาวเชื้อสายอาร์เมเนียอาศัยอยู่ แต่กลับถูกปกครองโดยทางการอาเซอร์ไบจาน จนกระทั้งเมื่อสหภาพโซเวียตใกล้ล่มสลายทางรัฐสภาของภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค ได้ลงมติด้วยการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาร์เมเนีย ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งของทั้งสองประเทศเริ่มประทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้ง มีการเจรจาสันติภาพโดยกลุ่มโอเอสซีอี มินสค์ (OSCE Minsk Group) ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี 1992 นำโดยฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐฯ จัดประชุมที่กรุงมินสค์ของเบลารุส
แต่ทว่าก็ยังคงมีการสู้รบของอาร์เมเนีย และอาเซอร์ไบจาน มาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง ในปี 2016 มีการปะทะกันรุนแรง ทำให้ทหารของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตหลายราย และมาประทุรุนแรงอีกครั้งในปี 2020 จนนำมาสู่การเจรจาสันติภาพ ล่าสุดที่นำโดยรัสเซีย นั่นเอง
..................................................................
สถาพร เกื้อสกุล
11-11-2563