ไทยรับข่าวดี บราซิลเปิดตลาดนำเข้าข้าวเพิ่ม 400,000 ตัน ไม่เสียภาษี
ไทยรับข่าวดี บราซิลเปิดตลาดนำเข้าข้าวเพิ่ม 400,000 ตัน ไม่เสียภาษี
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการการค้าต่างประเทศของบราซิล (CAMEX) ได้ออก
ประกาศมาตรการเพื่อลดภาษีนำเข้าข้าวเปลือกและข้าวสารในอัตราภาษีนำเข้า 0 % สำหรับข้าวนำเข้าจากทุก
ประเทศ ปริมาณรวม 400,000 ตัน มีผลตั้งแต่วันที่ 11ก.ย.- 31 ธ.ค. 2563 เนื่องจากรัฐบาลบราซิลต้องการสร้างความมั่นใจที่จะให้มี Supply ทางอาหารให้เพียงพอในช่วงสถานการณ์โควิด -19 ซึ่ถือเป็นโอกาสของผู้ส่งออกข้าวของไทยที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวไปยังบราซิล
ที่ผ่านมาไทยต้องเสียภาษีนำเข้าข้าว12 %ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการขนส่งค่อนข้างสูงส่งผลให้ไทยส่งออกข้าวไปยังตลาดบราซิลไม่มากนัก โดยในปี 2562 ไทยส่งออกข้าวไปยังบราซิลปริมาณ 433 ตัน มูลค่า 460,000 ดอลลาร์ฯ หรือ 14ล้านบาท ข้าวที่ส่งออก ได้แก่ ข้าวเหนียว ข้าวหอมมะสิไทยและข้าวกล้อง ทั้งนี้ ในช่วงเดือนก.ย. - ต.ค. 2563 มีการส่งออกข้าวไปบราซิล ปริมาณ 28,163 ตัน มูลค่ากว่า 12.55 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 390 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากการ ลดภาษีนำเข้าข้าวดังกล่าวที่ทำให้ข้าวไทยสามารถแข่งขันในตลาดบราซิลได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นข่าวดีที่ไทยจะมีตลาด
รองรับผลผลิตข้าวที่กำลังจะออกสู่ตลาดในช่วงสิ้นปีนี้
นายกีรติ กล่าวว่า บราซิเป็นประเทศที่มีตลาดขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 200 ล้านคน ซึ่งมากที่สุดในลาตินอเมริกา และมากเป็นอันดับ 6 ของโลก กำลังซื้อของผู้
บริโภคชาวบราซิลมีแนวโน้มสูงขึ้นตามเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบราซิลยังมีศักยภาพในการเป็นประตูการค้าไปสู่ประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา
โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มตลาดรวมอเมริกาใต้ตอนล่าง (Mercosur) ซึ่งประกอบด้วยบราซิล อาร์เจนตินา เวเนชเอลาปารากวัย และอุรุกวัย
ทั้งนี้ บราซิลจะยกว้นภาษีนำเข้าให้แก่ข้าวที่นำเข้าจากประเทศสมาชิกกลุ่ม Mercosur ส่วนประเทศนอกกลุ่มดัง
กล่าวรวมทั้งประเทศไทยต้องเสียภาษีร้อยละ 12 ดังนั้นมาตรการของรัฐบาลบราซิลซึ่งลดภาษีนำเข้าสำหรับข้าวจากประเทศทั่วโลกจึงถือเป็นโอกาสที่ผู้ส่งออกข้าวไทยจะขยายตลาดสู่บราซิลรวมทั้งประเทศกลุ่มลาตินอเมริกาได้มากขึ้น
#ประเทศไทยต้องชนะ



















