ร้านของชำ โชห่วย ไม่ตาย รอดได้ แค่ปรับตัว
ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย กำลังเผชิญกับมรสุมจากการรุกคืบแบบก้าวกระโดดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะธุรกิจจากต่างประเทศที่เข้ามาขยายตลาดในเมืองไทย ผ่านแอปพลิเคชั่นและช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งธุรกิจค้าปลีกของไทยไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า จึงต้องหาทางปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ถ้าเป็นธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ก็จะปรับตัวได้ดีกว่าและเร็วกว่า เพราะสายป่านหลากหลายและยาวไกล หากเป็นธุรกิจขนาดเล็กอย่างร้านขายของชำหรือที่เรียกกันว่าโชห่วย หากไม่ยอมขยับปรับตัว ก็ต้องถูกกระแสการค้าสมัยใหม่กลืนกินไป
วันนี้ได้เห็นตัวอย่างของโชห่วยชุมชนที่ยอมปรับตัว จนทำให้ยอดขายดึขึ้น เจ้าของร้านยิ้มได้กว้างขึ้น จากโครงการ “มิตรแท้โชห่วย” ที่ธุรกิจค้าส่ง แม็คโคร เข้าไปช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ ด้านการบริหารจัดการร้าน ให้เป็นระเบียบ ระบบ ทันสมัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดเรียงสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ เช่น สินค้าที่สัมพันธ์กันอย่างผงซักฟอกกับน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่ม ให้วางไว้ใกล้กัน, สินค้าเล็ก ๆ วางไว้ข้างบน ใหญ่ ๆ ไว้ชั้นล่าง, สินค้าในครัวเรือนที่ราคาน้อยไว้ด้านหน้า ราคาสูงไว้ด้านหลัง, เครื่องดื่มวางไว้ใกล้ตู้เย็น, ด้านหน้าร้านมีชั้นวางขนมขบเคี้ยว, ลูกอมไว้ใกล้เคาน์เตอร์เป็นสินค้าซื้อแบบเฉียบพลัน รวมถึงการติดป้ายแสดงราคาสินค้า, การทำโปรโมชั่นลดราคา, การจัดการสต๊อกสินค้า, การปรับปรุงภาพลักษณ์ ไปจนถึงกระบวนการคิด เช่น หากอยู่ในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยว ก็อาจหาสินค้าชุมชนหรือสินค้าทางเลือกเข้ามาวางขายด้วย
เป็นที่รู้กันดีว่า ร้านค้าขนาดเล็กเช่นนี้ ส่วนใหญ่จะมีเจ้าของเป็นผู้สูงอายุ หรือคนรุ่นเก่าที่เปิดร้านเล็ก ๆ ทำมาค้าขายมาตั้งแต่ยังหนุ่มยังสาว จึงมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ยากต่อการเปิดใจยอมรับความเปลี่ยนแปลง ทำให้ค่อนข้างมีอคติและมีปัญหาที่จะต่อสู้กับการค้าสมัยใหม่
แต่ข้อดีของร้านค้าขนาดเล็กแบบนี้ที่ร้านค้าสมัยใหม่และร้านค้าออนไลน์ไม่มี ก็คือ ในแง่ความสัมพันธ์ความใกล้ชิด ความจริงใจ ความรู้จักกัน ความเอื้อาทรและอัธยาศัยที่ดีระหว่างเจ้าของร้านกับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในชุมชน จึงรู้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าว่าลูกค้าคนไหนชอบอะไร ไม่ชอบอะไร คนไหนควรจะเสนอหรือแนะนำสินค้าชนิดใด และที่สำคัญนอกจากจะต่อรองราคาได้แล้ว ยังสามารถใช้ระบบสินเชี่อชาวบ้าน คือการ “เซ็น” การ “เชื่อ” แบบเอาของไปกินไปใช้ก่อน แล้วผ่อนเงินคืนทีหลังได้ แบบไม่ต้องมีดอกเบี้ย เพียงแค่ใช้ความไว้เนื้อใจหรือเครดิตส่วนตัวระหว่างกันเป็นประกัน
ภาพข่าวและเรื่องราวที่เห็น แม้บางคนจะมองว่าเป็นโฆษณาเชิงพาณิชย์ แต่ก็ต้องเปิดใจยอมรับว่า ในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น เนื้อหาหลัก ๆ มาจากเรื่องจริง ซึ่งการปรับตัวทำให้ธุรกิจดีขึ้น ดึงดูดความสนใจของลูกค้ามากขึ้น ทำให้ลูกค้าเข้าร้านเพิ่มขึ้น ได้ยอดขายสูงขึ้น กำไรก็ขยับขึ้นตามมา
โชห่วยจะไม่ล้ม เพราะวันนี้โชห่วยมีมิตรแท้เข้าไปช่วยแนะนำ ติดอยู่แค่ว่า เจ้าของร้านพร้อมหรือยังที่จะพัฒนาไปด้วยกัน