เพื่อไทย ถอย! นักวิชาการชี้ เจ้าของตัวจริงต้องการวางรากฐานให้ลูกหลาน อยู่ในสังคมการเมืองอย่างปลอดภัย
เพื่อไทย ถอย! นักวิชาการชี้ เจ้าของตัวจริงต้องการวางรากฐานให้ลูกหลาน อยู่ในสังคมการเมืองอย่างปลอดภัย
รองศาสตราจารย์ ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์ประจำหลักสูตร การเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา นิด้า เห็นว่า การจัดทัพใหม่ ของพรรคเพื่อไทย ถ้ามีวัตถุประสงค์ เพื่อสู้ทางการเมือง ต้องมีคนรุ่นให่มเข้ามา เป็นองค์ประกอบในกรรมการบริหารพรรค เพื่อทำงานกับการเมืองนอกสภา แต่ก็เสี่ยงถูกฟ้องให้ยุบพรรค ซึ่งเพื่อไทยคงไม่กล้าออกหน้า จึงเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยปรับเพื่อถอย จากการสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหว นอกสภา เห็นได้จากคนที่ลาออกไป ที่เคลื่อนไหวสนับสนุนนักศึกษามาก่อน กรรมการบริหารชุดใหม่ น่าจะมีลักษณะผสมผสานระหว่าง คนรุ่นใหม่กับรุ่นเก่า โฟกัสการทำงานในสภาฯ และรักษาฐานเสียง เพื่อเตรียมเลือกตั้ง ลดความเสี่ยงการช่วงชิงฐานเสียง จากพรรคก้าวไกล ซึ่งมีฐานมวลชนทับซ้อนกันอยู่ แม้หัวหน้าพรรคจะยังคงเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ซึ่งมีลักษณะประนีประนอมทางการเมือง เช่นเดียวกับ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคชุดใหม่ ที่ต้องมีลักษณะเดียวกัน เพราะพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย ก็มีสายสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีต่อกันอยู่
ส่วนเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล หากพล.อ.ประยุทธ ยังเป็นนายกฯอยู่ เป็นไปได้ยาก เพราะบุคลิคขัดแย้งกันชัดเจน จะทำให้เสียมวลชนด้วยกันทั้งสองฝ่าย เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นไปได้ยาก เพราะพลเอกประยุทธ์ต้องลาออก ซึ่งในสังคมไทย นายกฯมักจะเลือกใช้วิธียุบสภา มากกว่าการลาออก
การปรับเปลี่ยนของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เสียงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ แต่มาจากการจัดตั้งของหัวคะแนนที่เข้มแข็ง ความพยายาม นำคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน ช้ากว่าพรรคก้าวไกล การช่วงชิงเสียงคนรุ่นใหม่ จึงไม่ใช่เป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ความพยายาม ปูพื้นฐานให้รุ่นลูกตระกูลชินวัตร มีพื้นที่ทางการเมืองจำเป็นต้องทำให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ความพยายามสืบสานการเมืองเป็นความจำเป็นของตระกูลการเมืองในประเทศไทย เพื่อใช้เกื้อกูลผลประโยชน์ในอนาคต แต่ในบริบทการเมืองไทยในปัจจุบันเป้าหมายเรื่องการนิรโทษกรรม อดีตนายกฯทักษิณ มีความเป็นไปได้น้อย