3 วิธีรักษานอนกรนไม่ต้องผ่าตัด
อัปเดตล่าสุด 3 วิธีรักษานอนกรน ไม่ต้องผ่าตัด
จากครั้งก่อนที่แอดมินนำข้อมูลสุด insight เกี่ยวกับอุปกรณ์รักษานอนกรนมานำเสนอ ก็มีลูกเพจทักเข้ามาถามเป็นจำนวนมาก วันนี้แอดมินจึงเห็นว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะมาอัปเดตการรักษานอนกรนแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ได้รับความนิยมจากทั้งในโรงพยาบาลและตามคลินิกต่างๆ ข้อมูลวันนี้ถือว่าอัปเดตที่สุดแล้ว พลาดไม่ได้แล้วล่ะ !
Oral Appliance
คืออุปกรณ์ทันตกรรมรักษานอนกรน มีให้เลือกหลายรุ่นตามความต้องการของคนไข้เช่น ความหนาของตัวอุปกรณ์ และวัสดุที่ใช้ผลิต
หลักการทำงานของ Oral appliance: การจัดตำแหน่งลิ้นหรือขากรรไกรมาทางด้านหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้ลิ้นหรือเนื้อเยื่อในลำคอหย่อนลงไปอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ ซึ่งจะทำให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น วิธีนี้สามารถช่วยให้ผู้ที่มีปัญหานอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ดีมากขึ้น
ข้อดี
มีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการ
ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
ไร้เสียงรบกวนคนนอนข้างๆ
ใส่ง่าย
ทำความสะอาดง่าย
ข้อเสีย
อาจไม่ชินในช่วงแรกที่ใส่
ริมฝีปากแห้ง
น้ำลายออกมาก
CPAP (Continuous Positive Airway Pressure):
เครื่องช่วยหายใจประเภทหนึ่งที่ใช้รักษานอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้ในระดับปานกลางถึงขั้นรุนแรง
หลักการทำงานของ CPAP: ตัวเครื่องจะเป่าความดันลมผ่านทางจมูกหรือปากผ่านบริเวณลำคอและโคนลิ้น ซึ่งเป็นส่วนทางเดินหายใจตอนต้น เพื่อให้เปิดขยายตัวตลอดเวลาโดยไม่ให้มีการอุดตันขณะที่นอนหลับ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP สามารถหายใจรับอากาศอย่างพอเพียงและนอนหลับราบรื่นตลอดทั้งคืน
ข้อดี
เห็นผลไว
สดชื่นขึ้นทันที
เหมาะกับคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับขั้นรุนแรง
นอนหลับดีขึ้น
ข้อเสีย
ตื่นเช้ามาคอแห้ง
มีเสียงดังรบกวนคนข้างๆ
เกะกะ นอนไม่สบาย
พกพายาก
RF (Radio Frequency) (Continuous Positive Airway Pressure):
การใช้คลื่นวิทยุยกกระชับเพดานอ่อน ทำให้เกิดการสะบัดตัวขณะหายใจน้อยลง จึงช่วยลดอาการนอนกรน
หลักการทำงานของ RF: มีการปล่อยพลังงานวิทยุไปที่เพดานอ่อนทำให้เพดานอ่อนกระชับขึ้น การปล่อยพลังงาน RF (Radio Frequency) ทำให้เนื้อเยื่อเกิดเป็นพังผืดและมีการหดตัว จึงทำให้เสียงกรนและการสั่นสะเทือนขณะหายใจลดน้อยลง
ข้อดี
ใช้เวลาทำแปปเดียว
ความเสี่ยงต่ำ
เจ็บน้อย
ผลลัพธ์ค่อนข้างดี
ช่วยลดอาการนอนกรนได้ดี
ข้อเสีย
เจ็บคอประมาณ 3-4 วัน
พูดไม่ชัดใน 2-3 ชั่วโมงแรก
อุปกรณ์แต่ละชนิดมีข้อดีในแต่ละสถานการณ์ที่แตกต่างกันเช่น คนที่เดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ อาจจะเลือกใช้ oral appliance เพราะขนาดเล็ก พกพาสะดวก แต่ถ้าคนที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับอย่างรุนแรง ต้องการสดชื่นขึ้นทันทีในเช้าวันต่อมา ก็ควรใช้ CPAP ในการรักษา หากว่าต้องการลดเสียงกรนรบกวนคนข้างๆ อาจใช้ RF (Radio Frequency) ในการช่วยแก้ปัญหา นอกจากการพิจารณาพฤติกรรมภาพรวมของตนเองแล้ว อาจต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมเพื่อเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับความรุนแรงของอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับของแต่ละบุคคล