นักข่าวช่องดัง เปิดใจหลัง ยุติบทบาทในฐานะผู้สื่อข่าว ที่ติดตามคดีน้องชมพู่ กว่า 1 เดือน
วันนี้เปิดใจอีกครั้ง กับข้อความว่า
"สวัสดีครับ ผมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมานะครับ ผมได้อ่านแล้ว ต่างก็มีทั้งด้านลบและบวก แต่ผมเข้าใจได้ครับ
จุดประสงค์การเขียนโพสต์ ผมตั้งใจจะเขียนบอกกับเพื่อนในเฟซบุ๊กของผมว่า “ผมไม่ได้ทำงานที่สถานีฯแล้ว” เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา เพื่อนๆรับรู้ว่าผมทำอะไรอยู่ และผมก็รับรู้ว่าเพื่อนหลายๆคนต่อว่าสื่อ บางคนทักแชตมาถามเรื่องข่าว ผมก็ไม่รู้จะบอกเพื่อนยังไง ได้แค่แนะนำว่าถ้าไม่สบายใจก็เลิกดูข่าว
อีกอย่าง เมื่อวานนี้ที่ตัดสินใจโพสต์ไป เพราะผมเพิ่งพ้นสภาพการเป็นพนักงานอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ผมเขียนใบลาออกล่วงหน้าไว้ 1 เดือน (เขียนช่วงหลังกลับจากมุกดาหารได้สักระยะ) และเมื่อวานผมก็เพิ่งทราบว่าพี่ที่รู้จักเพิ่งลาออกด้วย ผมก็เลยตัดสินใจเขียนโพสต์ของผมแจ้งให้เพื่อนในเฟซบุ๊กรับทราบตามที่ผมกล่าวไป
อย่างไรก็ตาม ตัวผมเองจบด้วยดีไม่ได้มีปัญหากับใคร และผมก็บอกเสมอว่าผมยังเคารพผู้ใหญ่ เคารพพี่ๆทุกท่านที่ให้โอกาส ส่วนสิ่งที่ผมโพสต์ไป มันคือความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น คนที่เห็นต่างผมก็ไม่ว่าครับ เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในตัวเองตามระบอบประชาธิปไตยครับ
ผมไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจเยอะขนาดนี้ครับ แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้นะครับ "
หลังจาก ศักดิ์ดา วรรณสุทธิ์ นักข่าวช่องดังออกมาโพสต์ เมื่อวาน 09 กันยายน มีข้อความว่า
"“ยุติบทบาทในฐานะผู้สื่อข่าว”
“เพื่อนหลายคนเห็นโพสต์นี้คงตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เราต้องบอกก่อนว่า เราทำงานกับทางช่อง ระยะเวลา 1 ปี 2 เดือน เรารู้สึกขอบคุณที่ช่องให้โอกาสเสมอมา ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ดีกับเรา ที่สอนเราหลายๆอย่าง แต่เมื่อเราทำงานมาเรื่อยๆหลายๆอย่าง อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่เราคาดหวังเอาไว้ ทำให้เราไม่สามารถฝืนความรู้สึกตัวเองและเดินต่อต่อไปได้ เราตัดสินใจไปคุยกับพี่ (รอง ผอ.ฝ่ายข่าว) และบอกว่า ”เราอยากพัก” ซึ่งพี่แกก็เคารพการตัดสินใจของเรา
เราใช้เวลาคิดและตัดสินใจ 1 เดือนเศษ ใช้ช่วงเวลาที่เราทำงานอยู่บ้านกกกอกเพื่อติดตามคดีน้องชมพู่ ขณะที่เราอยู่ที่นั่นนานวันเข้า เราตั้งคำถามกับตัวเองต่างๆนานา และ “คำตอบในหัวเรา มันทำให้เราไม่มีความสุข” กับการทำงาน (เราขอไม่ลงรายละเอียด)
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้ เราไม่สามารถขัดแย้งอะไรได้ ซึ่งทุกครั้งเราต้องก้มหน้าก้มตาทำต่อไปเรื่อยๆ เราลำบากใจหลายอย่าง และที่ลำบากใจไปมากกว่านั้นคือการเข้าถึง “สิทธิส่วนบุคคล”เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลบางอย่าง ตัวเรามองว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่ แม้บางคนเขาจะเต็มใจก็ตาม ถามว่าคนดูได้อะไรจากสิ่งเหล่านั้น ได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ นอกจากได้ดู “ความขัดแย้งกันของเครือญาติ”
อย่างที่เราบอกในโพสต์ก่อนหน้าว่า “เรารับรู้ถึงกระแสของเพื่อนๆกับการต่อว่าสื่อมวลชน” ซึ่งเราไม่มีโอกาสได้อธิบายให้ใครฟังมากมายนัก แต่เราก็ไม่อยากให้เพื่อนเหมารวมสื่อมวลชน อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าสื่อมวลชนก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ทำงานภายใต้กรอบขององค์กร และการทำงานของแต่ละองค์กรย่อมต่างกัน ฉะนั้นวัฒนธรรมองค์กรนั้นล้วนแตกต่างกันออกไปเช่นกัน ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองในบริบทของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว
สุดท้ายนี้ ในนามของเราเอง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งและเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ เราขอโทษทุกคนต่อการนำเสนอข่าวที่เกิดขึ้น จนมันนำพาสังคมให้มาถึงจุดนี้ได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราก็แค่ทรัพยาการบุคคลคนหนึ่ง ไม่สามารถท้วงติงหรือแก้ไขอะไรได้มาก เพราะเมื่อเราอยู่ในระบบ เราก็ต้องทำ ดังนั้นเราจึงขอถอยออกมา เพราะเราไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของระบบ..
เราขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาหาเรา และห่วงใยเรา
“จากกันด้วยดี ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านครับ”
พ้นสภาพอย่างเป็นทางการ
ศักดิ์ดา วรรณสุทธิ์
9 ก.ย.2563"
นักข่าวลาออก ระบายความในใจ "เรื่องเน่าเฟะ บ้านกกกอก"
อ้างอิงจาก: https://www.youtube.com/watch?v=EwaosBvDArM&t=186s
https://www.facebook.com/sakdaandfriends