ย้อนฟัง ....วาทะ”บิ๊กตู่”ในสภา “อยู่มาจนวันนี้ แล้ว ผมไม่ได้กลัวใครทั้งสิ้น” ... แต่กลัว พวกที่แอบอยู่ข้างหลัง กลัวมือที่สาม เหมือนปี 2553
ย้อนฟัง ....วาทะ”บิ๊กตู่”ในสภา
“อยู่มาจนวันนี้ แล้ว ผมไม่ได้กลัวใครทั้งสิ้น” ...
แต่กลัว พวกที่แอบอยู่ข้างหลัง
กลัวมือที่สาม เหมือนปี 2553
ยันรักลูกหลาน
เพราะผมก็มีลูก
ครอบครัวไหนไปร่วมชุมนุม
ก็ดูแลลุกของท่านให้ปลอดภัย ด้วย
“ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ทำอะไรแน่นอน “
.
พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯและ รมว. กลาโหม กล่าวถึง การชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้ ที่มีการระบุว่าจะเป็น ยุทธการสะพานมัฆวานฯ เกรงว่าจะเป็นการปลุกระดม คนที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องจะมองว่า เป็นตัวร้ายที่จ้องจะกำจัดใคร ก็แล้วแต่ เหมือนเป็นการปลุกระดม ที่จะเร่งให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย
ผมไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้เลย อดีตคืออดีตวันนี้คือวันนี้ อะไรผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ผมไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก วิเคราะห์กันไปเรื่อย
มองไปเรื่อยเคลื่อนรถเกราะรถถังจะรบกับใครจะยิงกับใคร เมื่อปี 2557 ไม่ได้ยิงปืนสักนัด ไม่ได้เอารถถังมาปิดใครด้วย
“อยู่มาจนวันนี้ แล้ว ผมไม่ได้กลัวใครทั้งสิ้น แต่กลัวคนที่แอบอยู่ข้างหลัง ที่จะทำให้เหตุการณ์บานปลายเร่งปลุกระดม
ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ยุ่งเกี่ยวที่จะห้ามนักศึกษา เพราะเป็นหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการ ผมย้ำเสมอว่าให้อะลุ่มอล่วย ดูแลความปลอดภัยให้มากที่สุด เพราะกลัวมือที่สาม เมื่อปี 2553 ก็เกิดขึ้นมาแล้ว เพราะทุกคนคือลูกหลานของผม ฟังนักศึกษาฟังคนอีกพวกหนึ่ง อย่ามาบอกว่าไม่ฟังใคร ที่ผ่านมาอะลุ่มอล่วยมาตลอด ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลกันต่อไป
"ทุกวันนี้ให้สังเกตว่าเขาให้ประกันตัวก็ไม่รับ แต่ขอติดคุก ถามว่าเกิดอะไรขึ้นมีใครไปยุแหย่เขาหรือไม่ ผมรักลูกหลานอยู่แล้ว
เพราะผมก็เป็นคนมีลูก อบรมลูกในทางที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ก้าวล่วงงานพ่อ ไม่รับผลประโยชน์ ไม่เปิดเผยตัว นั่นคือลูกของผมครอบครัวของผม ส่วนครอบครัวไหนไปร่วมชุมนุม ก็ดูแลลุกของท่านให้ปลอดภัยอยู่ดี
“ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ทำอะไรแน่นอน “
ขอยืนยันตรงนี้เลย ใครจะทำต้องหาตัวให้เจอฝากให้ลูกหลานสบายใจ ให้อยู่ในกรอบสันติวิธี ฟังหมดแต่ไม่อยากฟังต่อหน้า เพราะมีปัญหาที่มีคนอยู่เบื้องหลังพอสมควร อย่าให้พูดมากกว่านี้