โซเชียลสุดทนจนดราม่า #แบนลุงพล ติดเทรนด์ ช่างภาพช่องดังลาออก ไม่ขอทำข่าวนี้อีกแล้ว
(สรุป : จากการที่ลุงพลตอนแรกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีน้องชูมพู่ ที่สืบคดีอยู่นาน 4 เดือนก็ไขคดีไม่ได้สักที สู่การเป็นคนดังในโลกโซเซียลจนทำให้หลายๆคนที่ตามข่าวเริ่มหลงประเด็นลืมไปว่ามีคนเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้)
สืบเนื่องจากคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ที่แม้จะกินเวลายืดเยื้อยาวนาน ก็ยังไม่สามารถไขปริศนาการเสียชีวิตของเด็กหญิงได้ แต่จากการนำเสนอข่าวในหลากหลายแง่มุมของสื่อมวลชนดังหลายสำนัก ก็ทำให้ชีวิตของ "ลุงพล" หรือ นายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ พลิกผันจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าหลานตัวเอง กลายมาเป็นคนดังแห่งบ้านกกกอก ได้รับความสนใจจากสังคม นำไปสู่การมีผู้ติดตามในโลกออนไลน์ การจ้างงานเป็นพรีเซนเตอร์ต่างๆ
จนกระทั่งสังคมเริ่มตั้งคำถามถึงจรรยาบรรณในการนำเสนอข่าว ที่ดูจะห่างไกลจากข้อเท็จจริงออกไปทุกที และทำให้ความสนใจของคนในสังคมเบี่ยงเบนไปจากเรื่องการตายของน้องชมพู่ จนกลายมาเป็นการตามติดชีวิตของลุงพล ไปจนถึง ป้าแต๋น ผู้เป็นภรรยาไปเสียแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (9 ก.ย.) ในโลกออนไลน์ก็ได้มีการติดแฮชแท็ก #แบนลุงพล กระหึ่มโซเชียล หลังเรื่องราวของลุงพลถูกนำเสนอในสื่อต่างอย่าง "มากเกินพอดี"
นอกจากชาวเน็ตจะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้น คนดังอย่าง ครูลูกกอล์ฟ คณาธิป สุนทรรักษ์ พิธีกร และครูสอนภาษาอังกฤษชื่อดัง ก็ยังได้ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Songpon Ruengsamut ซึ่งเป็นหัวหน้าช่างภาพของ สำนักข่าวโทรทัศน์ช่องดังสำนักหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า ตนทนไม่ไหวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนต้องขอลาออกจากงาน เพราะไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตเรื่องราวเหล่านี้อีกต่อไป ข้อความระบุว่า
เรื่องนี้สอนให้รู้เลยว่าการนำเสอนข่าวแบบผิดๆหรือไปบิดเบือนข่าวนั้นเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ทั้งนั้นแอดก็ขอให้คนที่เสพข่าวมีวิจารณ์ญาณในการเสพข่าวครับ อย่าไปหลงหรืออินกับมันมากเกินไป
ปล.ขอให้ครอบครัวของลุงพลได้รับความเป็นธรรมในคดีน้องชมพู่ด้วย
ปล2.แอดขอลาไปเท่านี้ก่อน ขอให้สุขภาพทุกคนแข็งแรงน่ะครับ