นพนันท์ แนะคนที่ค้านซื้อเรือดำน้ำโปรดคิดไตร่ตรองให้ดีๆก่อน ประเทศไทยไม่ได้มีแค่อ่าวไทยเท่านั้น
นายนพนันท์ อรุณวงศ์ ณ อยุธยา นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Noppanan Arunvongse Na Ayudhaya ว่า
“นอกจากอ่าวไทยแล้ว ประเทศไทยยังมีน่านน้ำอีกด้าน คือ ทะเลอันดามัน ตั้งแต่ชายฝั่งจังหวัดระนอง จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล
นอกจากมาเลเซียแล้วเรายังมีเพื่อนบ้านที่สำคัญทางฝั่งอันดามัน คือ พม่า
เราคงทราบดีว่า พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาจนแตก 2 ครั้ง และครั้งสุดท้ายเมื่อ 253 ปีก่อนนั้นกรุงศรีอยุธยาถึงกับล่มสลายลงอย่างสิ้นเชิง ทำให้ทุกวันนี้เราจึงต้องมาใช้เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ติ๊กต๊อก และยูทูปในประเทศไทยโดยมีเมืองหลวงที่กรุงเทพมหานคร
เรารบกับพม่าครั้งสุดท้ายในระดับ full scale ก็เมื่อครั้งเราเริ่มตั้งกรุงเทพฯ กันใหม่ ๆ ช่วงสงครามเก้าทัพ แต่พม่าก็พ่ายแพ้กลับไปและไม่เคยยกทัพมารุกรานเราอีกเลย ต่อมาพม่าก็ตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ และเมื่อได้รับเอกราชแล้วก็อยู่ภายใต้เงาของจีนอีกหลายสิบปี จนกระทั่งสัก 6-7 ปีก่อนก็เริ่มผละจากจีน ทำท่าเหมือนจะโผเซ ๆ เข้าหาอเมริกา แต่ไป ๆ มา ๆ เมื่อเริ่มมีปัญหากับจีนเรื่องชายแดนก็ย้ายไปเป็นลูกคู่ของอินเดียในปัจจุบัน
ช่วงใกล้สงครามโลกครั้งที่สอง ไทยมีแสนยานุภาพทางทหารที่แข็งแกร่ง เรามีเครื่องบินรบนับร้อยลำ เรามีกองเรือรบ และเรามีเรือดำน้ำอีก 4 ลำ
ไทยเป็นเพียงชาติเดียวในอาเซียนและชาติที่ 2 ในเอเซียที่มีเรือดำน้ำ จีนซึ่งเป็นขาใหญ่ด้านเรือดำน้ำชาติหนึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่มีเรือดำน้ำแม้สักลำเดียวในขณะนั้น
เมื่อไทยกลายเป็นพี่เบิ้ม เราก็แทบไม่สนใจพม่าอีกเลย พม่าก็ทำตัวเหมือนอยู่เงียบ ๆ ไม่ยุ่งกับใคร และไม่มีปัญหากับไทย ช่วงกึ่งพุทธกาลพ.ศ. 2500 ผู้นำพม่ายังมาเยือนไทยและไปเที่ยวอยุธยากับจอมพลป. ทำนองว่าท่านผู้นำไทยจูงมือท่านผู้นำพม่าไปขอขมาลาโทษที่พม่าเคยเผาทำลายอยุธยาในอดีตกันอีกด้วย
จนกระทั่งปัจจุบัน พม่าเริ่มมีเรือดำน้ำที่อินเดียอนุเคราะห์ขายต่อให้ 1 ลำ แต่ไม่ใช่แค่ลำเดียว พม่ากำลังจะสร้างฝูงเรือดำน้ำและฐานทัพเรือดำน้ำอีกด้วย
ขณะที่เรือดำน้ำไทยทั้ง 4 ลำในสมัยที่ไทยเป็นพี่เบิ้มกล้าซัดแลกหมัดกับฝรั่งเศสกันซึ่งหน้าก็ล้วนปลดระวางสิ้นสภาพไปตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ตั้งแต่นั้นไทยไม่เคยมีเรือดำน้ำอีกเลยแม้สักลำเดียวตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมาจนกระทั่งวินาทีนี้
ทะเลอันดามันของเรานั้นมีฐานทัพเรือ คือ ฐานทัพเรือพังงา
เรามีเรือรบผิวน้ำที่พอจะต่อกรกับเรือดำน้ำได้บ้าง คือ เรือฟรีเกต ซึ่งเรามี 3 ลำ แบ่งกันใช้ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน แต่ฐานทัพเรือพังงาของเราทางฝั่งอันดามันนั้นสามารถจอดเรือฟรีเกตได้แค่ลำเดียว
เรือฟรีเกตมีระยะค้นหาและทำลายเรือดำน้ำ 7 กิโลเมตร ขณะที่เรือดำน้ำสามารถยิงตอร์ปิโดเข้าทำลายเรือรบจากระยะ 20-50 กิโลเมตร และยิงขีปนาวุธทำลายเรือรบขณะดำอยู่ใต้น้ำได้จากระยะไกลถึง 200-220 กิโลเมตร
ทำนองคล้ายกับว่า เรามีมีดอีโต้สั้น ๆ ไว้ฟันกับดาบซามูไรเล่มยาวเกือบวา แถมมองไม่เห็นอีกต่างหาก
อย่าไปคิดอะไรมาก ขณะนี้รอบบ้านเราก็มีเรือดำน้ำเวียดนาม 6 ลำ สิงค์โปร์ 4 ลำ อินโดนีเซีย 5 ลำ มาเลเซีย 2 ลำ ดำผุดดำว่ายกันสบาย ๆ หากจะมีเรือดำน้ำพม่าเพิ่มอีกสักฝูงทางด้านทะเลอันดามันจะเป็นอะไรไป
ทุกวันนี้ ตู้ ATM ไทยก็มีเมนูภาษาพม่าให้ด้วยอยู่แล้ว
ภาพประกอบ : เรือดำน้ำพม่า โดย Military Images