"จตุพร”เชื่อกันยายนจะเป็นสถานการณ์วัดใจ ชี้อย่ากระพริบตาปรากฎการณ์นำไปสู่ “แก้ รธน.หรือ รัฐประหาร
"จตุพร”เชื่อกันยายนจะเป็นสถานการณ์วัดใจ ชี้อย่ากระพริบตาปรากฎการณ์นำไปสู่ “แก้ รธน.หรือ รัฐประหาร
เมื่อ 1 ก.ย. 2563 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk เตือนจับตาสถานการณ์เดือนกันยายนว่า บรรยากาศการเมืองไทยกว่า 6 ปีมานั้น รัฐบาลจากคณะรัฐประหารมีลักษณะการประนีประนอมสูง บางครั้งยอมถอยในสิ่งที่ประชาชนไม่เอาด้วย โดยไม่ทำตัวแบบเผด็จการเดิมๆที่ยอมหักไม่ยอมงอกัน นั่นเป็นลักษณะเฉพาะของรัฐประหารชุดนี้
อีกอย่างที่ตนตั้งคำถามว่า จะแก้ รธน.หรือ รัฐประหารนั้น เพื่อให้เห็นปลายทางจะจบลงอย่างไร เพราะสถานการณ์กันยายนเป็นเดือนวัดใจ และจากนี้ไปจนถึง 30 กันยายนต้องตามสถานการณ์อย่างไม่กระพริบตา เพราะปรากฎการณ์ที่เห็นวันนี้เหมือนไม่มีอะไร แต่กลิ่นไอรัฐประหารจะมาก่อนเสมอ เนื่องจากเดือนกันยายนจะเต็มไปด้วยการเคลื่อนไหว แล้วไปเต็มที่ในวันที่ 19 กันยายนนี้
การรัฐประหารไม่มีใครพูดได้เลยว่า จะไม่เกิดขึ้นอีก ตนเห็นปรากฎการณ์มาหลายครั้ง เมื่อมีการเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาว แล้วมีอีกกลุ่มชื่อไทยภักดี จึงเป็นปรากฎการณ์ของความขัดแย้งแล้ว จากนั้นความแตกแยกจะถูกอ้างถึง แล้วมาถ้าบางฝ่ายจะอ้างโยงไปถึงการโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นสถานการณ์เปราะบาง
"ผมพูด ไม่ได้ให้เกิดความกลัว แต่จะบอกว่า การต่อต้านรัฐประหารครั้งนี้จะมีออกมามากมาย ดังนั้นเดือนกันยายนจึงวัดใจกันอย่างยิ่ง ถ้าเลือกแก้ รธน.มาตรา 256 โดยฝ่ายการเมืองเอากันอย่างจริงจัง ผ่านรัฐสภาอย่างรวดเร็ว ไม่เล่นแร่แปรธาตุแล้ว อย่างน้อยจะชะลอรัฐประหารได้บ้าง"
นายจตุพร กล่าวว่า แต่ถ้าในสภามีปัญหา เกิดสถานการณ์แก้ไข รธน.ไม่ได้ ประกอบกับนอกสภามีคู่ความขัดแย้งอีก จะเป็นเงื่อนไปสู่การรัฐประหารได้ ดังนั้นในสถานการณ์เปราะบางต้องตั้งสติกัน เพื่อไม่เผชิญกับปัญหาอื่นอีกหลากหลายที่จะตามมา
“อีกทั้งในสภาต้องมีคำถามว่า จะรักษาสภาหรือไม่ ส่วนพลังข้างนอกจะปล่อยให้สถานการณ์ลุกลามจนเกิดการยึดอำนาจหรือไม่ เพราะหลังการยึดอำนาจไปแล้วกว่าจะต่อสู้ได้คืนนั้นไม่ง่ายเลย จึงขอให้แต่ละฝ่ายในขณะนี้ได้คิดอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง”
นายจตุพร เชื่อว่า ถ้าทางออกสถานการณ์ทั้งหมดอยู่ที่การรัฐประหารแล้ว เดือนกันยายนจะเป็นการเร่งให้เกิดขึ้น แล้วเราจะเอาอย่างไร เอาแบบแก้ รธน. โดยแต่ละฝ่ายสู้กันในสนามนี้และยืนจุดยืนเดิมซึ่งพวกรัฐประหารรอสถานการณ์นี้กันอยู่แล้ว
รวมทั้ง ย้ำว่า ตนสั่งสมบทเรียนที่ผ่านมา เห็นอะไรมามาก และขบวนการประชาธิปไตยต้องอ่านกระดานด้วยความรอบคอบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องการขี้ขลาด ตนจึงไม่เล่นตามเกมยุทั้งหลาย เพราะนั้นเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่ปลายทางการยึดอำนาจ
นายจตุพร เตือนว่า ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ต้องการแก้ รธน.นั้น ต้องตัดสินใจว่า จะสร้างเงื่อนไขจนไปเปิดประตูให้การรัฐประหารใหม่หรือไม่ วิธีให้มีภูมิต้านทานอย่างแข็งแรงคือ สสร. ต้องมาจากการเลือกของประชาชนทั้งหมด รวมทั้งรูปแบบต่างๆที่จะเป็นเงื่อนไขต้องไม่ดำเนินการให้เกิดขึ้น
ส่วนข้อเรียกร้องในการชุมนุมนั้น เป็นหัวใจที่มีความสำคัญ ฉะนั้นภายใต้หลักการประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขต้องขีดเส้นใต้ให้ได้ โดยไม่เอาสถาบันกษัตริย์มาใช้เพื่อประโยชน์ตัวเอง แล้วทำลายคนอื่น
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา