เกาะโลซิน กองหินโสโครกก้อนเล็กๆ แต่มีมูลค่าหลายแสนล้าน
เกาะโลซิน กองหินโสโครกก้อนเล็กๆ แต่มีมูลค่าหลายแสนล้าน
หลายคนคงได้ยินชื่อเกาะโลซินมาบ้างแล้วในฐานะแหล่งดำน้ำที่สวยงามแห่งหนึ่งนอกฝั่งปลายด้ามขวานของไทย แต่ในอีกความสำคัญเกาะ (หรือหินโสโครก) ชื่อโลซิน มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย
ก่อนจะมีการเริ่มสำรวจแหล่งก๊าซและปิโตรเลียมในปี 2511 ยังไม่มีใครสนใจเจ้าเกาะเล็กๆนี้สักเท่าไหร่ แต่พอเริ่มมีการสำรวจพบแหล่งก๊าซธรรมชาติปริมาณมหาศาลหลังจากนั้นไอ้เจ้าเกาะขนาดจิ๋วนี้ก็มีความสำคัญยิ่งยวดขึ้นมาทันที เพราะถ้าไม่มีเกาะนี้แนวเขตแดนไทยมาเลเซียจะลากตั้งฉากออกจากปากแม่น้ำโกลก และบริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติจะตกเป็นของมาเลเซียทั้งหมด โชคดีที่กองทัพเรือไทยได้ไปสร้างประภาคารไว้ที่เกาะโลซินมาตั้งแต่นานนม ทำให้เราสามารถอ้างอนุสัญญาเจนีวา 1958 ที่ยังให้นิยามหินโสโครกกองนี้ว่าเกาะได้ และทร.ได้ไปสร้างประภาคารไว้โดยไม่มีประเทศอื่นคัดค้าน
ดังนั้นเราสามารถลากเส้น base line ออกไปจากปากแม่น้ำโกลก จากนั้นก็ลากเส้นตั้งฉากออกไปอ้างเขตเศรษฐกิจจำเพาะ จนมาเลเซียต้องยอมรับว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนและต้องพัฒนาและใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นที่มาของ MT JDA หรือ Malaysia Thai Joint Development Area และเราสามารถแบ่งครึ่งกันใช้ประโยชน์จากแหล่งก๊าซธรรมชาติกับมาเลเซียในบริเวณนี้ได้จนถึงทุกวันนี้ ครึ่งของเราแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกส่งไปขึ้นฝั่งที่จังหวัดสงขลาใช้เป็นเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้า อ.จะนะ และก๊าซ NGV ที่ใช้ในภาคใต้ทั้งหมดเฉลี่ยประมาณ240ล้าน ลบฟุต/วัน ส่วนที่สองส่งไปขึ้นฝั่งที่ จ.ระยอง เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในเขตกรุงเทพและภาคตะวันออกเฉลี่ยประมาณ340ล้านลบฟุต /วัน อีกครึ่งหนึ่งเป็นของมาเลเซีย เฉลี่ยประมาณ605 ล้านลบฟุต/วัน
แต่..ปัญหานี้รอวันปะทุ เพราะว่า..
ข้อตกลงไทยมาเลเซีย มีกำหนดเวลา 50 ปี จะหมดอายุในปี 2572
กฎหมายทางทะเลตามอนุสัญญาเจนีวาฉบับปรับปรุงใหม่ 1982 มีผลบังคับใช้ และเกาะโลซินตามนิยามใหม่จะไม่ใช่เกาะอีกต่อไป จะมีฐานะเป็นแค่กองหิน ไทยไม่สามารถอ้างเป็นเขตแดนในการลาก base line ได้แบบเดิม
คิดว่ามาเลเซียจะยอมรับเป็นพื้นที่ทับซ้อนอีกหรือไม่ หรือจะเคลมเป็นของมาเลเซียทั้งหมด อีกแค่ 9 ปีรู้กัน ตอนนั้นใครจะเสียงดังกว่าบนโต๊ะเจรจา
Cr. Krai Prapawadee