มงคลกิตต์ชี้ไม่ควรซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในยามที่เศรษฐกิจมีปัญหา ยันหนุนการซื้อแต่ต้องชะลอก่อน
#หารือประธานรัฐสภาวันนี้#เรือดำน้ำ# กราบเรียน ประธานสภาผู้แทนราษฏร กระผมนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทย ภาพรวมรายได้ไม่พอรายจ่าย งบประมาณปี 63 ตั้งไว้ 3.2 ล้านล้านบาท เดิมขาดดุล 469,000 ลบ. แต่วิกฤตโควิด-19 ประเทศจัดเก็บรายได้ต่ำมาก รัฐบาลจึงต้องกู้เงินแก้ขาดดุลเพิ่มอีก 214,000 ลบ ในปี 63 สรุปเป็นงบปี 63 ขาดดุลทั้งสิ้น 683,000 ลบ ซึ่งยังไม่ถึง 30 ก.ย.63 น่าจะมากกว่านั้น ไม่รวม พรก.กู้เงิน 3 ฉบับ 1.9 ล้านล้านบาท ที่กำลังใช้จ่ายอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งวันนี้ หนี้สาธารณะประเทศไทยอยู่ที่ 7.45 ล้านล้านบาท และการคาดการณ์รายรับปี 2564 เดิมตั้งขาดดุลไว้ 623,000 ล้านบาท จริงน่าจะขาดดุลเพิ่มอีก 250,000 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จแล้ว สิ้นปีงบประมาณ 2564 หนี้สาธารณะน่าจะแตะ 10 ล้านล้านบาท หรือ 59% ต่อ GDP62 หรือ 68% ต่อ GDP 63(ถ้า GDP 63 ยอด 14.7 ล้านล้านบาท) จึงทำให้ประเทศไทยต้องขยับเพดานการกู้เงินต่อหนี้สาธารณะไปแตะ 80% ต่อ GDP ถ้าจะกู้อีก
ดังนั้นในกรณี คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน ใน คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 สภาผู้แทนราษฏร ได้อนุมัติให้กองทัพเรือซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาทแล้ว ด้วยมติ 5 ต่อ 4 เสียง เป็น ลำที่ 2-3 นั้น
ผมในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล และ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ ใน คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฏร จึงมีความเห็นว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำควรชะลอไปก่อนแต่ก็ยังมีความจำเป็นในการเพิ่มศักยภาพกองทัพในอนาคต แต่ก็ยังไม่เร่งด่วนเท่ากับการนำเงินดังกล่าวไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ตกงานจำนวนมาก หรือ นำไปลงทุนด้านอื่นๆที่จะกระจายรายได้สู่พี่น้องประชาชนภายในประเทศโดยตรง
กระผมจึงเรียนผ่านท่านประธานสภาผู้แทนราษฏร ไปถึง ท่าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ไตร่ตรองเรื่องนี้ให้รอบคอบทุกมิติ
https://www.facebook.com/100001857841737/posts/4188294961242391/
โพสต์โดย พรรคไทยศรีวิไลย์ เมื่อ วันพุธที่ 26 สิงหาคม 2020