ผ่านแล้ว! กมธ.งบโหวตไฟเขียว ทร.ซื้อเรือดำน้ำ
ในการประชุมของคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2564 สภาผู้แทนราษฎรนั้น แสดงความเห็นทั้งสองฝ่ายทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุน ส่วนกองทัพเรือยืนยันในความจำเป็นในการจัดหา จึงมีการลงคะแนนเสียงว่าจะอนุมัติให้กองทัพเรือจัดหาเรือดำน้ำหรือไม่ ผลปรากฎว่าคะแนนเสียงเสมอกันที่ 4 ต่อ 4 ประธานในที่ประชุมจึงใช้สิทธิ์ในการลงคะแนนชี้ขาด ซึ่งประธานลงคะแนนเห็นชอบ จึงทำให้โครงการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือในปี 2564 ได้ไปต่อ
โครงการนี้เป็นการจัดหาเรือดำน้ำ S26T จำนวน 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท เลื่อนการจัดหาจากปี 2563 เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ได้รับผลจากโควิด-19 และดำเนินการของบประมาณในปี 2564 เพื่อจัดหา
----------------
ในส่วนของ TAF นั้น แม้เราจะเห็นว่าประเทศไทยควรมีเรือดำน้ำ แต่เราเห็นว่าเวลาในช่วงนี้ไม่เหมาะสม เนื่องจากโครงการนี้ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับประเทศในส่วนของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในภาวะที่เศรษฐกิจของชาติเกิดวิกฤตเป็นอย่างมาก และรัฐบาลต้องกู้เงินจำนวนมากมาใช้จ่าย การเลื่อนโครงการออกไปก่อน หรือปรับปรุงโครงการให้ผู้ประกอบการไทยมีส่วนร่วมในการต่อเรือ เพื่อดึงงบประมาณกลับเข้ามายังประเทศไทยบ้าง จะเป็นทางออกที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย แทนที่จะดึงดันเสนอโครงการที่ประชาชนไมได้อะไรในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียต่อกองทัพเรือเองในแง่ภาพลักษณ์ของกองทัพเรือในสายตาประชาชน
อย่างไรก็ตาม TAF ก็ยอมรับในกระบวนการ เมื่อคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรลงมติด้วยเสียงข้างมาก ก็ต้องถือว่าโครงการผ่านการเห็นชอบไปครับ
คาดว่าการลงนามในสัญญาน่าจะดำเนินการก่อนสิ้นปีงบประมาณนี้ และเมื่อขึ้นปีงบประมาณใหม่ก็จะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณมาจ่ายค่าต่อเรืองวดแรกต่อไป