ไวรัสบันยา มีเห็บเป็นพาหะ ซึ่งเมื่อเห็บกัดคนจะพาเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จากนั้นจะสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้
ไวรัสบันยา มีเห็บเป็นพาหะ ซึ่งเมื่อเห็บกัดคนจะพาเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จากนั้นจะสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ด้วยทางเดินหายใจ และบาดแผลของผู้ที่โดนกัด
รายงานว่า มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีนพบผู้ป่วย 37 ราย ถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะโรคเกล็ดเลือดต่ำขั้นรุนแรง โดยผู้ป่วยโรคนี้เป็นเกษตรกรชื่อคุณหวัง วัย 65 ปี จากมณฑลเจียงซู ไปพบคุณหมอเนื่องจากมีอาการไข้สูงถึง 40 องศาเซลเซียส และไอไม่หยุด แพทย์วินิจฉัยว่ามีไวรัส SFTS หรือ กลุ่มอาการไข้สูง และเกล็ดเลือดต่ำ จึงต้องแอดมินที่โรงพยาบาลรักษาตัวนาน 1 เดือน
ในปีนี้ ผู้ป่วยด้วยโรคนี้ในมณฑลเจียงซูถึง 37 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อต่างมณฑล อยู่ที่อานฮูย ทางตะวันออกถึง 23 คน ส่วนผู้เสียชีวิตมีแล้ว 7 คนแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญเตือนอันตรายไวรัสชนิดนี้ที่ทำให้คนติดเชื้อเสี่ยงถึงแก่ชีวิตได้โดยพบครั้งแรกในปี 2552 มีอัตราการเสียชีวิต 1 เปอร์เซ็นต์ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ และผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงจะเจ็บป่วยและเสียชีวิต แต่ไม่มีวัคซีนหรือยาเฉพาะที่รักษาอาการ ดังนั้นผู้ป่วยจึงต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด
อาการเริ่มแรกของโรคคือ อ่อนเพลียและมีไข้ บางครั้งอาจมีผื่นขึ้น ส่วนใหญ่เกล็ดเลือดและเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และเกิดความผิดปกติของอวัยวะหลายส่วน ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยของโรคนี้ส่วนใหญ่สามารถรักษาหายเอง แต่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจถึงกระทั่งอวัยวะล้มเหลว
โรคเห็บมรณะนี้ พบในญี่ปุ่นและจีน โดยที่จีนเมื่อสามปีก่อน มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสบันยาและเสียชีวิตถึง 16 รายเพราะ สัมผัสกับศพของผู้ป่วยที่มีเลือดออกเนื่องจากการติดเชื้อรุนแรง ผู้ติดเชื้อรายหนึ่งเสียชีวิตในที่สุด มีคำแนะนำว่าผู้คนไม่ควรเข้าไปในป่าหรือพุ่มไม้ โชคดีที่เห็บบินไม่ได้ เราจึงหลีกเลี่ยงมันได้ จนถึงขณะนี้การติดเชื้อไวรัสบันยาที่ค้นพบส่วนใหญ่เกิดจากเห็บกัด
ทั้งนี้ เห็บ เป็นปรสิตที่ใช้ปากกัดแล้วดูดเลือดสัตว์และมนุษย์เป็นอาหาร ซึ่งถูกพบมากกว่า 800 สายพันธุ์ทั่วโลก ซึ่งมีเห็บบางชนิดอาจเป็นพาหะแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่อาจก่อให้เกิดโรคที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้ผ่านทางน้ำลาย แต่กรณีพบผู้ป่วยโรคจากเห็บในบ้านเรานั้นมีน้อยครั้งมาก