หนังสือบุดโบราณ ถูกขโมย...หนังสือบุดคืออะไรพร้อมอธิบาย
ก่อนจะเล่าว่าหนังสือบุดโบราณคืออะไร คือมันมีเหตุน่ะครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังพระภิกษุรูปหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งศึกษารวบรวมหนังสือบุดโบราณ พบข้อมูลในสื่อออนไลน์ว่า มีคนนำหนังสือที่เก็บรักษาไว้ในศูนย์ศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชไปวางขายในตลาดมืดอย่างโจ่งแจ้ง จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่ผ่านมากว่า 3 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า จึงเกรงว่า หนังสือจะถูกขายทอดให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี และจะติดตามคืนได้ยาก พระชั้นผู้ใหญ่จึงร่วมกันจัดตั้งศูนย์บิณฑบาตคืนหนังสือบุดสมุดข่อยจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ครอบครองหนังสือบุดที่ได้ไป โดยมิชอบ นำกลับมาคืน ล่าสุดได้มีการสั่งพักงาน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชนครศรีฯ ปมหนังสือบุดโบราณถูกขโมย
หนังสือบุดเป็นวรรณกรรมลายลักษณ์ของภาคใต้ที่บันทึกสรรพวิทยาการต่าง ๆ ไว้ก่อนที่การพิมพ์จะแพร่หลายอย่างเช่นปัจจุบัน หนังสือบุดหรือคัมภีร์บุดเป็นวรรณกรรมที่มีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำด้วยกระดาษข่อยแผ่นยาว ๆ หน้าแคบ พับทางขวางทบกลับไปกลับมาคล้ายผ้าจีบ มีทั้งชนิดกระดาษขาวและกระดาษดำ ซึ่งอาจจะมีชื่อเรียกต่าง ๆ กันตามภูมิภาคอื่น ๆ เช่น สมุดข่อย, สมุดไทย เป็นต้น หนังสือบุดถือเป็นวรรณกรรมประเภทท้องถิ่นของภาคใต้ที่เป็นขุมทรัพย์ทางสติปัญญา และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรแก่การศึกษาเรียนรู้ตลอดถึงการอนุรักษ์สืบสานเอาไว้ให้อยู่คู่ชาติไทย หนังสือบุดนับเป็นเอกสารโบราณประเภทหนึ่งที่ใช้บันทึกความรู้ของคนไทยในสมัยก่อน โดยที่คำว่า “บุด” ในภาษาถิ่นใต้มีที่มาจากรากคำภาษาสันสกฤตคือคำว่า “ปุสตก” และภาษาบาลีว่า “โปตถก” ซึ่งหมายถึงคัมภีร์ใบลาน, ผ้า, เปลือกไม้ และรูปปั้น หรือคำว่า ”ปุฎ” หมายถึงการพับ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับหนังสือบุดคือเป็นหนังสือพับ (ในภาษาถิ่นใต้จะออกเสียงคำว่า “สมุด” เป็น “มุด” จึงอาจกลายเป็นบุดในเวลาต่อมา) (สารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคใต้, ๒๕๔๒ : ๘๓๒๘-๘๓๓๗) โดยในหนังสือบุดเอกสารจะเป็นตัวเขียนที่เขียนขึ้นหรือจารขึ้น เพราะสมัยโบราณก่อนการใช้สมุดแบบฝรั่ง การบันทึกเรื่องราวที่ใช้ตัวอักษรจะใช้วิธี "จาร" หรือจารึกหรือบันทึกลงในสมุดข่อย หรือ ใบลานซึ่งส่วนมากล้วนแต่สัมพันธ์กับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวใต้ในอดีต และหากพิจารณาหนังสือบุดในมุมมองของวิชาการจดหมายเหตุ (Archival science) จะเห็นได้ว่าหนังสือบุดถือเป็นเอกสารจดหมายเหตุ (Archival records) หรือเอกสารประวัติศาสตร์ (Historical records) ประเภทหนึ่ง เพราะเนื่องจากเป็นเอกสารที่คนในยุคโบราณได้ทำขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิต เช่น เป็นคู่มือการประกอบอาชีพ หรือใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญ ๆ เช่น พิธีแต่งงาน พิธีขึ้นบ้านใหม่หรือที่เกี่ยวกับพิธีศพ ตลอดถึงใช้เป็นแหล่งอ้างอิงหรือใช้เพื่อให้คติชีวิตและเพื่อความจรรโลงใจ ซึ่งเรื่องราวอาจจะเป็นนิทาน, สุภาษิต, คำสอน, ความเชื่อ, ฤกษ์ยามโหราศาสตร์ คำสอนในศาสนา, ไสยศาสตร์, เวทมนต์คาถา, ตำรายา, ประเพณี, พงศาวดาร, ตำนาน, บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ยกตัวอย่าง เช่น วรรณคดีทางศาสนามหาชาดก กายนคร คำกาพย์, วรรณคดีคำสอน เช่น กฤษณาสอนน้อง สุภาษิตร้อยแปด สุภาษิตสอนหญิง วรรณคดีพิธีกรรม เช่น บททำขวัญนาค บททำขวัญเรือ บททำขวัญข้าว วรรณคดีตำนานว่าด้วยความเป็นมาของศาสนสถานที่สำคัญ ๆ เช่น ตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช ตำนานการสร้างพระปรางค์เมืองหงสา วรรณคดีนิทาน ที่รู้จักกันแพร่หลายในภาคใต้ เช่น เรื่องพระสุธนมโนห์รา นางสิบสอง นกกระจาบ สุบิน นายดั่น และวันคาร วรรณคดีนิราศ เช่น นิราศเกาะสมุย นิราศถ้ำเขาเงิน นิราศพัทลุง นิราศเสือขบ เป็นต้น และหน้าตามันก็จะเป็นประมาณนี้ครับ