สาวปัตตานีคลอดลูกก่อนกำหนดที่ รพ.มาเลเซีย ฝากลูกเพื่อต่ออายุวีซ่า แต่เข้ามาเลเซียไม่ได้ติดโควิด-19 มา3เดือน ทางรพ.เตรียมส่งสถานสงเคราะห์เด็ก แม่ร้องวอนรัฐและผู้ใจบุญช่วยด้วย
ข่าวด่วน อะหมัด ปัตตานี ได้โพสต์ระบุว่า
สาวปัตตานีคลอดลูกก่อนกำหนดที่ รพ.มาเลเซีย ฝากลูกเพื่อต่ออายุวีซ่า แต่เข้ามาเลเซียไม่ได้ติดโควิด-19 มา3เดือน ทางรพ.เตรียมส่งสถานสงเคราะห์เด็ก แม่ร้องวอนรัฐและผู้ใจบุญช่วยด้วย
วันที่ 17กค 2563 ตามที่มีหนังสือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัลลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลkajang รัฐselagor ว่า มีหญิงไทยคลอดบุตร และทิ้งบุตรไว้ที่โรงพยาบาล มาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ทราบชื่อ นางสาว นูรฮาลีซา เจะอาแว อายุ 18 อยู่บ้านเลขที่ 43 /1 หมู่ 1 ตำบลกะรุบี อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ได้คลอดลูก ที่โรงพยาบาล kajangและบุตร มีอาการป่วย จึงถูกส่งตัวเข้ารักษา ที่แผนกผู้ป่วยเด็กของโรงพยาบาลดังกล่าว ต่อมา นางสาวนูรฮาลีซา ได้แจ้งกับโรงพยาบาลว่า จำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทย ในต้นเดือนมีนาคม 2563 เพื่อจัดการเรื่องเอกสาร ต่อพาสเปร์ตที่ด่านไทยและจะรีบกลับประเทศมาเลเซียทีนที อย่างไรก็ดี ปัจจุบันโรงพยาบาล ไม่สามารถติดต่อนางสาวนูรฮาลีซา ได้เป็นระยะเวลากว่า 3 เดือนแล้ว ทั้งนี้ หากยังไม่สามารถติดต่อกับนางสาวนูรฮารีซาได้ ทางโรงพยาบาล จำเป็นต้องส่งเด็กให้สถานสงเคราะห์ เด็กในมาเลเซียต่อไป
ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังบ้านของนางสาว นูรฮาลีซา เจะอาแว อยู่บ้านเลขที่43/1 หมู่ 1 ตำบลกะรุบี อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงพบ นางสาว นูรฮาลีซา เจะอาแว อาศัยอยู่กับสามี พ่อ และพี่สาว จึงได้เข้าไปสอบถาม จึงทราบว่า หญิงสาวดังกล่าว เป็นคลอดลูกที่ประเทศมาเลเซียจริง
โดยนางสาว นูรฮาลีซา เจะอาแว อายุ 18 แม่ของเด็ก เปิดเผยว่า วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 ตนได้เข้าไปประเทศมาเลย์เซีย เพื่อทำงานร้านอาหาร(ต้มยำ) ทำงานไม่กี่วันเจ็บท้อง และได้คลอดลูก วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ตนคลอดที่โรงพยาบาลในกรุงกัลลาลัมเปอร์ เป็นการคลอดก่อนกำหนด และได้แจ้งทางโรงพยาบาลขอฝากลูกไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อเดินทางไปต่อวีซ่าที่กำลังจะหมดอายุ
ต่อมาวันที่ 18 มีนาคม 2563 จึงได้เดินทางกลับต่อวีซ่าที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วจะเข้าประเทศมาเลเซียนทันที แต่ไม่สามารถเข้าประเทศมาเลย์เซียได้ เพราะมาเลย์เซียได้ปิดประเทศ สาเหตุสถานการณ์โควิค19 กำลังระบาด ดังนั้นตน จึงได้เดินทางกลับบ้านประเทศไทย (คือจังหวัดปัตตานี) เพื่อตั้งหลัก และหาทางเข้ามาเลเซียแต่ก็เข้าไม่ได้ ทำให้กัลวนใจ เพราะลูกคลอดก่อนกำหนด ทางโรงพยาบาลยังให้ออสซิเจน ซึ่งตนเพิ่งได้อยู่ที่โรงพยาบาลกับลูกได้เพียง 3 วันเอง
ต่อมาตนรอให้ทางมาเลย์เซียเปิดประเทศ ขณะเดียวกัน ได้หางานหาเงินเพื่อเตรียมไปรับลูก แต่ก็ไม่มีงานทำ ขณะนี้ตนกลับมาได้ 3 เดือนแล้ว ประเทศมาเลย์เซียก็ยังไม่เปิดประเทศ อยากให้ผู้ใหญ่ใจดีช่วยไปรับลูกที เพราะตนไม่มีเงิน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบกับค่ารักษาตอนคลอดลูก เพราะต้องผ่าตัด ประมาน48000กว่าบาท และค่าใช่จ่ายอื่นๆอีก รวมแล้ว 90,000 กว่าบาท ตอนนี้พึงจ่ายแค่500บาทเอง เพราะไม่มีเงินจริงๆ ขนาดหน้าของลูกตนยังไม่ได้เห็นเลย รู้เพียงว่าลูกเป็นผู้ชาย แต่ปัญหาสำคัญคือเข้าประเทศไม่ได้
นางสาว นูรฮาลีซา เผยอีกว่า ทางโรงพยายาลในประเทศมาเลย์เซียได้ประสานทางโทรศัพท์กับตนว่า ให้มารับลูกโดยเร็วที่สุด ไม่งั่นเขาจะส่งไปที่สถานสถานสงเคราะห์เด็ก และยังบอกว่าถ้าเด็กไปสถานสงเคราะห์จะมีปัญหา มีความยากลำบากที่จะรับเด็กกลับยังประเทศไทย ตนไม่มีทางออก งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี ประเทศมาเลย์เซียก็ไมเปิด ส่วนใจพร้อมที่อยากไปรับลูก
นางสาว นูรฮาลีซา เผยต่ออีกว่า ทางกงสุลส่งหนังสือมายังตน ว่า มีหญิงไทยได้กลับมาบ้านและทิ้งบุตรที่ประเทศมาเลย์เซีย ทั้งๆที่ตนไม่ได้ทิ้งลูก แต่ตนจำเป็นที่ว่าต้องไปต่อวีซ่าพาสปอร์ตเพื่ออยู่กับลูกที่มาเลเซีย แต่เป็นจังหวะที่เกิด covid พอดีทำให้เข้ามาเลเซียต่อไม่ได้เพราะปิดประเทศ
นางสาว นูรฮาลีซา เผยตอนท้ายว่า ตนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว จึงวอนให้ทางรัฐช่วยประสานงานไปรับลูกที่อยู่โรงพยาบาลประทศมาเลย์เซีย หรือผู้ใจบุญช่วยเหลือด้วย ตนเกรงว่าเขาจะส่งลูกไปที่สถานสงเคราะห์เด็ก และล่าสุดทางโรงพยาบาลโทรเตือนมาอีก ว่าตกลงจะเอายังไง ซึ่งต้องการให้ตนไปโดยเร็วที่สุด ซึ่งก็ให้คำตอบไม่ได้เพราะไม่มีเงิน ประเทศก็ไม่เปิด เป็นห่วงลุกมาก
#ท่านใดอยากช่วยเหลือสามารถบริจาคผ่านหมายเลขบัญชีดังนี้
020258628955 ธนาคารออมสิน
นางสาวนูรฮาลีซา เจะอาแว