ประเทศเพื่อนบ้านเปิดตัวชุดประจำชาติใหม่! ที่คนไทยต้องยอมรับ!
จากกระแสความโด่งดังของละครบุพเพสันนิวาสที่ดังไกลหลายประเทศในโลกในปี 2018
แน่นอนว่ากระแสการสวมชุดไทยไม่ได้มีเพียงในประเทศไทยเท่านั้น เพราะยังมีอีกหนึ่งประเทศที่กระตือรือล้นกับกระแสดังกล่าว จนเกิดเป็นการเรียกร้องให้คนในประเทศสนใจวัฒนธรรมของตัวเองมากขึ้น
เมื่อเกิดเหตุการณ์ความนิยมที่โด่งดังจนคนไทยหลายๆคนสนใจชุดไทยและชุดพื้นเมือง ยุครุ่งเรืองแห่งวงการผ้าไทย เช่นร้านขายผ้าทอไทยและชุดไทย รวมไปถึงร้านเวดดิ้งชุดแต่งงานต่างๆก็ได้รับความนิยมและพัฒนารูปแบบชุดไทยให้ได้ตามความต้องการของท้องตลาดมากขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน
ชุดไทยสมัยอยุธยาตอนปลาย จากการรื้อฟื้นและค้นคว้าของศิลปินไทย
แต่หันกลับไปอีกประเทศเพื่อนบ้าน การที่คนไทยทำชุดเสื้อผ้าออกมาสวยงามมากมาย เป็นกระแสที่แม้แต่คนต่างชาติยังสนใจ ก่อให้เกิดปมในใจกับคนเหล่านั้นบางอย่าง....
"นี่เป็นชุดในประวัติศาสตร์ของฉันตั้งแต่สมัยละแวก พวกเสียม(Siem) นั้นเป็นขโมย พวกเค้าขโมยชุดของพวกเราไป เราต้องเอาคืน!"
หลังจากนั้น บรรดาร้านเช่าชุดและเวดดิ้งต่างๆของประเทศเพื่อนบ้านจึงเร่งทำชุดที่คล้ายๆชุดไทยออกมาอย่างมากมาย
เพียงแต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบของชายพก เช่น ของไทยมีชายพกที่สะเอวขาว ก็ปรับมาพับชายพกที่สะเอวซ้าย พร้อมกับเร่งหาข้อมูลอ้างอิงจากโบราณสถานและโบราณวัตถุต่างๆที่ปรากฎในประเทศเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงในการทำชุดของตนเอง
แต่นั่นเป็นแค่ชุดเริ่มต้นของความลำบากใจของคนไทย เมื่อมีเกรียนคีย์บอร์ดจากประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งกลุ่ม เพจ และIO บุกรุกเพจต่างๆที่ทำเกี่ยวกับชุดไทย หรือนำเสนอวัฒนธรรมไทยตามสื่อออนไลน์ เช่น Youtube Facebook Instragram โดยมักจะเป็นข้อความซ้ำๆกันเช่น
"Thiefland"
"Siem is thief"
"Thai born 13th"
"This is K_mer culture"
"Thai stole my culture" ฯลฯ
ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านนอกจากจะเรียกเราว่าเสียม ที่แปลว่า ขโมย แล้ว ยังตั้งฉายาให้ประเทศเไทยว่า "ยามบ่าย" หมายถึงประเทศที่ตั้งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตนเอง พร้อมยังเป็นประเทศที่เกิดหลังจากอาณาจักรโบราณของตน วัฒนธรรมของตนได้ถูกชาวสยามยึดครองไปทั้งหมด ดังนั้นวัฒนธรรมทุกอย่างของไทย จึงสมควรที่จะอ้างสิทธิ์และถูกนำกลับคือสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อาหาร สถาปัตยกรรม เสื้อผ้า งานฝีมือ โขน ฯลฯ
หญิงสาวจากประเทศเพื่อนบ้านผู้หนึ่ง สวมเสื้อเกาะอกลายธงชาติไทย โดยโพสคลิปsexyลงในTiK ToK
หรือแม้แต่การที่คนจากประเทศเพื่อนบ้านจะเข้ามาตักตวงทรัพยากรในประเทศไทยก็ถือเป็นสิทธิ์ที่พึงทำได้ โดยที่คนไทยห้ามโต้แย้ง
รวมไปถึงการโพสเนื้อหาเชิงจิตวิทยา เพื่อเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่างของชุดไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยเป็นการหยั่งเชิง และสร้างกระแสให้คนในประเทศนั้นยอมรับต่อกันไปเรื่อยๆว่า สิ่งนี้ถูกต้อง เราทำมาถูกทางแล้ว
ความเห็นจากชาวเน็ตที่กล่าวถึงความพยายามสร้างกระแสชุดประจำชาติ โดยอ้างว่าไม่อ้างอิงวัฒนธรรมไทย แต่ไทยต่างหากที่เอาชุดเสื้อผ้าของตนไปใช้
💥เพื่อนๆลองคนดูนะคะว่า เอาชุดไทยสองชุดมาโหวต คนไทยใส่กะเหมนใส่ ไทยโหวตเพราะคนไทยใส่ แต่เวลาเม้นท์คนไทยบอกว่าชุดที่เหมนใส่เป็นชุดไทย คนต่างชาติเค้างงมั๊ยหล่ะ อันไหนชุดไทยกันแน่ เพราะคนไทยโหวตที่เป็นนางแบบไทย
แล้วชุดไทยที่เหมนใส่ คนไทยไม่โหวต ตกลงไม่ใช่ชุดไทยเหรอ
💥เหมือนให้เลือกว่าจะแพ้หรือชนะ ทั้งๆที่เป็นชุดไทยทั้งสองชุด แค่ผู้ใส่เป็นคนละชาติ
💥เหมือนมันต้องการให้คนไทยเซ็นต์ยอมรับแบบเนียนๆค่ะ โดยการโหวต
💥ควรเข้าไปต่อต้านที่มันใส่ชุดไทย หาภาพชุดเปรียบเทียบที่มันใส่อยู่จะดีกว่ามั๊ยคะ
................................................................................................................
จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นระยะเวลาเกือบ3ปี ที่ประชาชนรวมกลุ่มกันเพื่อโต้แย้งและโต้กลับการกระทำดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
เริ่มจากการตั้งเพจ CLaimbodian ในปี 2018
จนมีคนไทยทราบและเพิ่มสมาชิกเพื่อต้านการรุกล้ำทางวัฒนธรรมจนมีสมาชิกเพิ่มขึ้น เป็นแนวร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลและเผยแพร่วัฒนธรรมไทยที่ถูกต้อง และบางครั้งก็เกิดการตอบโต้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมากมาย
แต่ดูจะไม่เป็นผลอะไร!? กลับยิ่งทำให้กระแสชาตินิยมและแพร่ความเชื่อเหล่านั้นแพร่ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น เนื่องด้วยประเทศเพื่อนบ้านนั้นมีค่านิยมของความเป็นชาตินิยมสูงมาก หากมีเหตุการณ์ใดที่จะเป็นผลดีต่อฝ่ายตนเองก็จะเฮโลเข้าไปร่วมวงอย่างพร้อมเพรียง
.
.
.
เมื่อเห็นว่ากระแสของคนส่วนใหญ่ในประเทศนั้นมองไปในทิศเดียวกันแล้ว จึงมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะนำเสนอโดยที่คนไทยก็ไม่สามารถโต้แย้งได้ทัน
และแล้ว สิ่งนี้จึึงตามมาในทันที...
ประเทศเพื่อนบ้านจึงพร้อมแล้ว! สำหรับการเปิดตัวชุดประจำชาติ อันมีข้อมูลและที่มาจากกำแพงปราสาทหิน ถึงแม้ว่าบางแบบหรือบางส่วนจะมีีความคล้ายคลึงกับชุดไทยและชุดพระราชนิยมก็ตามที!!!!
การเปิดตัวอย่างเต็มภาคภูมิของชุดประจำชาติ ที่สง่างามและทรงคุณค่า
ถึงแม้ประเทศไทยจะท้วงติงใดๆก็ไม่ได้สนใจหรือแคร์ไม่
มิหนำซ้ำยังมีชาวต่างชาติที่หลงเชื่อ ร่วมวงซ้ำคนไทยไปอีก!!!
ภาพชุดประจำชาติจากประเทศเพื่อนบ้านที่พร้อมใจกันนำเสนออย่างต่อเนื่องบนโลกออนไลน์โดยนางงามและนางแบบระดับชาติ
..........................................................................................
ในระยะเวลา3ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่กระแสบุพเพสันนิวาส....
จะเห็นได้ว่า ประชาชนต้องต่อสู้และเร่งสร้างผลงานพร้อมนำเสนอกันเอง โดยที่ไม่มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องรับทราบหรือมาดูแลเลย!!!
"เคยมีความพยายามของข้าราชการชั้นผู้น้อย ได้เสนอเรื่องประเด็นนี้ไปสู่กระทรวงวัฒนธรรมและกรมทรัพย์สินทางปัญญา ก็ได้คำตอบที่ไม่น่าพึงพอใจ คือ ยังเป็นประเด็นที่กระทรวงยังไม่เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วน อีกทั้งหากจะทำเรื่องนี้ต้องตั้งคณะกรรมการมารับผิดชอบ แถมเป็นเรื่องระหว่างประเทศซึ่งต้องผ่านกระบวนการอีกมากมายที่ไม่เห็นผลได้เลย เนื่องจากรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญกับอย่างอื่นอยู่..."
เหมือนกับการฟ้องร้องในชั้นศาล เมื่อผู้ฟ้องกล่าวหาจำเลย แต่จำเลยนิ่งเฉย ผลการตัดสินก็จะยกประโยชน์ให้ผู้ฟ้องทันที เพราะจำเลยไม่แก้ต่างความผิดของตัวเองเลย
ถ้าประเทศเพื่อนบ้านกล่าวหาเราว่าเป็นขโมยแล้วยังนิ่ง แสดงว่า... เราเป็นขโมยจริงๆตามที่เค้าว่า
เอาอย่างนั้นหรือคนไทย?
จะไปซ้ำรอยเขาพระวิหารกันอีกรอบอย่างนั้นเหรอ?
...........................
บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่นั่นเท่ากับว่าคุณมองไม่เด็ดขาดในประเด็นนี้เลย
1. การเคลมผ่านโลกออนไลน์มีผลอย่างมากต่อความคิดของบุคคล รวมไปถึงต่างชาติที่ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง การที่ประเทศเพื่อนบ้านโหมเอาข้อมูลทั้งจริงและเท็จลงทุกวัน ไม่นานนักจะไม่มีอะไรที่แยกกันออกได้ เอาแค่ทุกวันนี้คนไทยเองยังแยกชุดไทยกับชุดประเทศเพื่อนบ้านไม่ออกเลย เพราะทำได้เหมือนกันมากจนคนทั่วไปไม่มีทางสังเกตได้เลย
2. ประเทศไทยพัฒนาและคิดค้นสิ่งต่างๆมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี แม้ประวัติศาสตร์จะยอมรับว่า เรารับวัฒนธรรมมาจากขอมโบราณ แต่สิ่งที่ต่อยอดและพัฒนาเป็นวัฒนธรรมไทย เช่น ภาษา การแต่งกาย อาหาร ฯลฯ นั้นถือเป็นภูมิปัญญาที่สั่งสมกันมานาน รวมถึงการประยุกต์ดัดแปลงให้เป็นของตนเอง เป็นสมบัติ เป็นลิขสิทธิ์ของคนในชาติไทย
แต่จู่ๆ ประเทศเพื่อนบ้านมาอ้างสิทธิ์สิ่งที่เราทำและต่อยอดไปเป็นของตนเอง ก็ไม่ต่างอะไรกับการสร้างบ้านด้วยตัวเองแล้วยกให้คนอื่นอยู่!
3. มีผลต่อรายได้และความภาคภูมิใจของคนในชาติ เราจะมีความสุขได้อย่างไร หากวันนึงใส่ชุดไทยไปนำเสนอต่างชาติ แต่เค้าพูดว่า "คุณเป็นคน Kh เหรอ? ชุด Kh ของคุณสวยมาก"
หรือเคยมีนักศึกษาแลกเปลี่ยนคนไทยที่เกาหลีใต้คนนึงประสบมาแล้ว คือ
"รายวิชานั้นให้นักศึกษาต่างชาตินำเสนอเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเทศของตน โดยนักศึกษาไทยนำเสนอเรื่องโขน ขณะที่กำลังนำเสนอหน้าชั้นก็มี คนยกมือประท้วงขึ้นมา ให้เดาสิว่าคนประท้วงคนนั้นมาจากประเทศอะไร?
ใช่! คุณคิดถูกแล้ว ประเทศเดียวนั่นล่ะ... พร้อมกับเพื่อนของตัวเองจากประเทศเพื่อนบ้านติดกันที่ร่วงวงประท้วงด้วยว่า สิ่งที่นักศึกษาไทยคนนี้นำเสนอไม่เป็นความจริง เพราะไปลอกเลียนจากประเทศของตนมา
แม้แต่ครูในรายวิชานั้นยังเห็นด้วย เออออ พร้อมตำหนินักศึกษาไทยว่า เอาข้อมูลมาไม่ถูกต้อง จนทำให้นักศึกษาไทยคนนั้นหน้าชากันเลยทีเดียว จากความที่ทั้งข้อมูลที่นำเสนอของตัวเองเสนอแต่ด้านดี แต่ลืมเรื่องที่ว่า มีนักศึกษาอีกคนที่ไม่ได้หวังดีกับคนไทยอยู่ในห้องด้วย
นั่นก็เพราะคนไทยเองยังไม่เคยพบเจอกับวีรกรรมการเคลมกับตัวเองมาก่อน"
4. สิ่งเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ เป็นสมบัติ และภูมิปัญญาของคนในชาติ การรักษาผลประโยชน์ของชาติ เป็นสิ่งที่คนไทยควรพึงกระทำและร่วมมือกันทั้งเอกชนและราชการ เพราะผลที่ได้คือความยั่งยืนทางวัฒนธรรมไทยที่สามารถเชิดชูและสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล ถ้าหากมีประเทศข้างๆทำได้เหมือนกัน มีทุกอย่างเหมือนไทย แล้วต่อไปใครเขาจะมาเที่ยวไทย เพราะที่อื่นนั้นก็มี
.............................................................
สรุป
การที่ผมและประชาชนกลุ่มหนึ่งกำลังทำอยู่ทกวันนี้ คือการรักษาผลประโยชน์ของชาติไทย แต่หากจะยังมีการเพิกเฉยของคนไทยส่วนนึง รวมถึงราชการที่มองเรื่องนี้เป็นเรื่องไกลตัวหรือเล็กน้อย
ก็ให้จ้องมองภาพนี้ไว้นะครับ ว่าครั้งนึง การเพิกเฉย ทำให้เราสูญเสียอะไรไป.....