รีวิว พรหมลิขิต ภาคต่อ บุพเพสันนิวาส #ออเจ้า2
ละครไทยที่สร้างปรากฏการณ์ความดังไปทั่วเอเชียจนกลายเป็นตำนานละครไทยอย่าง บุพเพสันนิวาส ที่ออกอากาศเมื่อปี 2560 ทำให้นักแสดงนำ โป๊ป ธนวรรธน์ และ เบลล่า ราณี กลายเป็นนักแสดงที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นจนไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็เป็นที่พูดถึงตลอด อีกทั้งยังต่อยอดความดังด้วยละครภาค 2 ที่จะมาสานต่อเรื่องราวในชื่อ พรหมลิขิต พร้อมนักแสดงนำคู่เดิม ก็อยู่ในช่วงดำเนินการเตรียมบท โดยล่าสุดนักเขียน รอมแพ ได้โพสต์ข้อความอัปเดตผ่านเฟซบุ๊คถึงความคืบหน้าของละคร พรหมลิขิต ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน และยังพูดถึง บุพเพสันนิวาส เวอร์ชั่นภาพยนตร์ ที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้แต่ยังไม่เป็นที่สรุปเรื่องนักแสดงและตัวละคร ว่าเรื่องราวในภาพยนตร์จะเป็นการตีความใหม่ โดยมีกำหนดเปิดกล้องราวๆ เดือนตุลาคมนี้ ส่วนจะเป็นค่ายไหนต้องอุบไว้ก่อน
มีทั้งหนังและละครภาคต่อแบบนี้ แฟนๆ ที่หลงรักคุณพี่หมื่นและแม่การะเกดก็เตรียมตั้งตารอ การต่อยอดความโด่งดังของ บุพเพสันนิวาส ที่พร้อมเรียงคิวเข้ามาให้เราได้บันเทิงกันยาวๆ จากนี้ได้เลยจ้า
*****************************************************
ต่อไปนี้คือรีวิว พรหมลิขิต ภาคต่อ บุพเพสันนิวาส
ระหว่างรอแล้วรอเล่าที่จะชมละครภาคต่อจากเรื่องบุพเพสันนิวาส นี่ก็ผ่านไปเป็นปียังไม่มีวี่แววว่าจะถ่ายละครเสร็จ ดังนั้นอย่าไปถามว่าละครจะได้ลงจอเมื่อไร เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการรอ เราควรไปหาซื้อนิยายมาอ่านกันไปพลางๆ ก่อน และนี่คือการรีวิวพรหมลิขิต ออเจ้าภาค 2 ที่ทุกคนรอคอย ผลงานของนักเขียนขวัญใจคนเดิม “รอมแพง”
ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่า บุพเพสันนิวาส นั้น เนื้อหาจบอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว แต่ด้วยเสียงเรียกร้องที่อยากดูอีกๆๆๆ กดดันให้รอมแพงต้องมาเขียนภาคสองจึงกลายมาเป็นหนังสือเรื่องพรหมลิขิต นักเขียนเองก็บอกว่าเขียนยาก ดังนั้นถ้าถามว่าสนุกเท่าเล่มแรกไหม บอกเลยว่าไม่ เพราะเค้าโครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง จะคล้ายเดิมทุกอย่าง ผู้อ่านจะเดาออกทั้งหมด ถ้าเต็ม 100 คะแนน พรหมลิขิตน่าจะได้ 70 คะแนน แต่ก็ถือว่าเป็นหนังสือน่าอ่าน เพราะให้ความเพลิดเพลิน สนุกไปกับความโก๊ะของนางเอกหลงยุค แถมได้ความรู้ประวัติศาสตร์แบบไม่น่าเบื่อเป็นของแถมเช่นเคย
เนื้อเรื่องพรหมลิขิตดำเนินเรื่องโดย พุดตาน เด็กกำพร้าซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของเกศสุรางค์ที่เสียชีวิตไปแล้วในภพปัจจุบัน ดังนั้นจะแปลกอะไรที่พุดตานจะมีหน้าตาที่คล้ายเกศสุรางค์มากถึงมากที่สุด จนทีมละครสามารถให้เบลล่า (ราณี แคมเปน) เล่นเป็นพุดตานควบบทการะเกดพร้อมกันสองคนในเรื่องเดียวกันได้อย่างไม่ขัดเขิน เกศสุรางค์เรียนโบราณคดีที่ต้องขุดดิน ส่วนพุดตานเรียนด้านการเกษตรต้องขุดดินเหมือนกัน และขณะขุดดินก็ให้บังเอิญไปเจอกล่องเหล็กซึ่งภายในมีหนังสือมนต์กฤษณะกาลี ซึ่งมีฤทธิ์เดชมากดั่งที่รู้กันดีอยู่แล้วตั้งแต่บุพเพสันนิวาส เมื่อเธอจับหนังสือทำให้เธอหลุดข้ามภพไปอยู่ที่เดียวกับการะเกด
ความสนุกของเรื่องก็คล้ายเดิมคือพุดตานซึ่งเป็นคนยุคใหม่จะต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในสมัยอยุธยา ซึ่งเป็นยุคของพระเจ้าท้ายสระ เธอจะปรับตัวอย่างไร? ส่วนความฮาฉากแรกก็คือเมื่อพุดตานหลุดเข้าไปภพนั้นก็ไปเจอกับหมื่นมหาฤทธิ์ หรือ พ่อริด ซึ่งเจอพุดตานแต่งตัวประหลาดก็ตกใจมาก ถึงกับเผลอ“เงื้อตีนยันโครมจนกระเด็นตกคูน้ำ” พ่อริดเป็นลูกชายของการะเกด แน่นอนที่สุดหน้าตาก็จะต้องเหมือนพ่อเดชเป็นอย่างมาก เราจึงได้เห็น โป๊ป (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) เล่นเป็นทั้งพ่อและลูก แถมยังจัดเต็มเอาใจแฟนละครให้การะเกดมีลูกชายฝาแฝด คือ พ่อริด และ พ่อเรือง นั่นแหละจ้ะ เราจึงจะเห็นโป๊ปเล่นถึงสามคนในละคร ทั้งพ่อเดช พ่อริด พ่อเรือง กรี๊ดดดสิคะ รออะไรอยู่ 555555
ยังคงเหมือนเรื่องบุพเพสันนิวาส ที่พุดตานจะใช้คำพูดของคนยุคใหม่กับคนยุคเก่า ใช้ชีวิตทั้งแบบฮา ๆ สุข เศร้า เหงา คิดถึงบ้าน ผสมปนเปกันไป การปรับตัวเพื่ออยู่รอด พุดตานถึงกับต้องปลูกผักเพื่อหารายได้ ทำเครื่องสำอางขาย แถมยังรับทำกับข้าวตามออเดอร์อีกต่างหาก ฉากสำคัญก็คือได้ไปเที่ยวงานประเพณีสำคัญต่าง ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เชื่อว่าเมื่อทำเป็นละครจะสร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้แน่นอน
เดี๋ยวว่างๆผู้เขียนจะมาเล่าให้ฟังใหม่