สงครามโลกครั้งที่.3."จีนปะทะอินเดียตายเฉียด100สะเทือนทุกวิกฤติทั่วโลก"
Sathaporn Inter News รายงานว่าแม้จะไม่ใช่สงครามที่ต่างฝ่ายต่างยกกองทัพเข้าห้ำหั่นกัน แต่การที่ทั้งจีนและอินเดียต่างเร่งส่งทหาร รถถัง ปืนใหญ่ พร้อมเพิ่มทหารจำนวนมาก เข้าแนวชายแดนที่เป็นข้อพิพาทมาหลายสิบปี ณ วันนี้อินเดียเร่งให้รัสเซียส่งมิกซ์29 และระบบขีปนาวุธที่ทรงประสิทธิภาพอันดับ1 ของโลกโดยด่วนนั่นคือ S-400 ย่อมสะท้อนว่า วันนี้อินเดียและจีนมี สัมพันธภาพที่ไม่ปกติเป็นอย่างมากจริงแท้แน่นอน
**1.มิตรภาพที่ดียิ่งระหว่างจีนและอินเดียก่อนหน้านี้ ถ้าย้อนไปสิบปีเต็มไปด้วยการร่วมมือที่แสนวิเศษสุด แม้กระทั่งความร่วมมือทางวัฒนธรรมวิถีชีวิตของพลเมืองทั้งสองประเทศก็มีการประสานกัน ด้านเศรษฐกิจอินเดียยอมทุกอย่างเพื่อให้จีนได้ลงทุนการค้าธุรกิจด้วยจำนวนเงินนับมูลค่าหลายพันล้านดอลล่าห์ ผู้นำของสองประเทศผลัดกันเยือนกระชับมิตรที่โลกตะวันตกต่างอิจฉากตาร้อน
**2.แต่ด้วยความสำเร็จของจีนในการพัฒนาเศรษฐกิจที่รุดหน้ากว่าประเทศใดๆของโลก ทำให้ต้องระบายเงินทุนจำนวนมากออกนอกประเทศก่อให้เกิดการครอบงำเศรษฐกิจในหลายๆประเทศทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อินเดียก็เป็นหนึ่งในนั้นที่จีนดำเนินการ จนกระทั่งอินเดียเสียเปรียบจีนในด้านเศรษฐกิจเฉพาะการขาดดุลการค้าก็กระอักเต็มกลืน กอร์ปกับจีนมีนโยบายและโครงการขยายเส้นทางและแผนพัฒนาเพื่อหาทางออกสู่มหาสมุทธอินเดียและเอเซียใต้ พร้อมเร่งฟื้นความรุ่งเรืองของเส้นทางสายไหมหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ทำให้อินเดียได้รับผลกระทบโดยตรงและเป็นรองจีนทุกด้าน ด้วยเหตุนี้ในระยะ2ปีที่ผ่านมาอินเดียจึงปรับปรุงยุทธศาสตร์เพื่อรองรับสู้กับอิทธิพลของจีนทุกด้านเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือด้านการทหาร(ต้องไม่ลืมว่าอินเดียก็มีปัญหากับปากีสถานซึ่งมีนิวเคลียร์เหมือนกัน)
.**3.ชาติตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาทราบความเคลื่อนไหวมาโดยตลอดและรู้ซึ้ง(เข้าตำราหัวอกเดียวกัน)จึงรีบฉวยโอกาสทันที ทั้งการเดินทางมาเยือนของทรัมป์ หนำซ้ำพันธมิตรอย่างญี่ปุ่น ออสเตรเลียเพิ่มความร่วมมือกระชับมิตรสุดหวานแว๋ว และถึงขั้นมีการซ้อมรบร่วมกัน
**4.การปะทะของทหารทั้งสองประเทศบริเวณช่ายแดนอันเนื่องมาจากการตะโกนด่ากันไปมาจนถึงขั้นนำกระบี่กระบองมาทุบตีจนถึงเสียชีวิตทั้งสองฝ่ายเฉียด100นายจึงเป็นกุญแจที่เปิดประตูให้ทั่วโลกรู้ว่า
4.1.มหาอำนาจทั้ง รัสเซีย จีน สหรัฐ คงทำอะไรไม่ได้เพราะอินเดียเป็นประเทศใหญ่มีนิวเคลียร์ประชากรมากและยังไม่ชี้ชัดว่าจะยืนข้างใคร เต็มที่ก็เร่งขายอาวุธและดึงมาเป็นมิตรที่แนบแน่นให้ได้
4.2 การปะทะครั้งนี้ทำให้เป็นตัวเร่งแรงกระตุ้นให้อินเดียต้องพัฒนาศักยภาพทั้งหมดเพื่อสู้กับจีนจะเห็นได้จาก การเตรียมพื้นที่ถึง2ล้านไร่เพื่อรองรับชาติต่างๆที่จะถอนการลงทุนจากจีน นอกจากนั้นยังออกฏหมายห้ามทุนจีนเซ้งซื้อธุรกิจบางประเภทตอกย้ำความจริงจังของอินเดีย
4.3.ปากีสถานและจีนจะแนบแน่นและใกล้ชิดกันมากขึ้นนั่นหมายความว่ารัสเซียก็พลอยได้รับประโยชน์ไปด้วยส่งผลต่อนโยบายอื่นๆของชาติตะวันตกต่ออินเดียและปากีสถานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
4.4.อินเดียจำเป็นต้องเพิ่มอาวุธทุกอย่างให้ทัดเทียมจีน(ขณะนี้เป็นรองจีนทุกด้าน)จึงไม่แปลกที่เร็วๆนี้อินเดียทดลองยิงขืปนาวุธและขณะนี้เร่งซื้ออาวุธบิ๊กล็อตจำนวนมากโดยมีเป้าหมายที่ชาติตะวันตกและรัสเซียบางชนิดก็เร่งผลิตเอง
4.5.โอกาสที่มิตรภาพอันหวานชื่นระหว่างจีนและอินเดีนจะกลับมาดังเดิมคงเป็นไปได้ยากขึ้นเพราะจีนย่อมไม่เปลี่ยนเป้าหมายทั้งหมดตามที่กล่าวมาเดินหน้าอย่างเดียว บทสรุป นับจากนี้เอเซียใต้คือเป้าหมายหลักที่มหาอำนาจทั้งหมดต้องแย่งกันคุมอำนาจหรือทำอย่างไรก็ได้ดึงอินเดียมาเป็นพันธมิตรให้ได้ แต่ก็ไม่ง่ายเพราะตลอด30ปีอินเดียมีนโยบายและกลยุทธที่เป็นตัวของตนเองแบบเฉพาะไม่เหมือนใครๆ และนี่ก็คือพายุลูกใหม่ที่มีผลต่อดุลอำนาจของโลก และอิทธิพลที่ซับซ้อนจริงๆ
บทความโดย น.อ.สัมฤทธิ์ ทองอินทร์ ผู้เขียนหนังสือสงครามโลกครั้งที่3.(เกิดแน่) ที่ลำดับขั้นการเกิดสงครามโลกครั้งที่3.ได้จริง