หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ชาวไทยเชื้อสายกูยไม่ไช่เขมร

เนื้อหาโดย tonporkung

ชาวไทยเชื้อสายกูยไม่ไช่เขมร ชาวกูย กวย หรือ ส่วย ปัจจุบันพบชาวกูยในจังหวัดบุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ สุพรรณบุรี ส่วนใหญ่ชาวกูยในประเทศไทย ตั้งถิ่นฐานปนอยู่กับชาวเขมรสูง และชาวลาวทำให้ชาวกูยถูกกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม เขมรสูงและลาว บ้านของชาวกูยมีลักษณะใต้ถุนสูง ด้านหน้าเอาไว้เลี้ยงช้าง ใต้ถุนใช้เป็นที่วางหูกทอผ้า วางกระด้งไหม และวัสดุเครื่องใช้สานด้วยหวายหรือไม้ไผ่

ชาวกูยบางบ้านจะแบ่งส่วนหนึ่งที่ติดตัวบ้านเป็นยุ้งข้าว บางบ้านสร้างแยกต่างหาก ชาวกูยมีถิ่นเดิมอยู่บริเวณตอนเหนือของเมืองกำปงธม ประเทศกัมพูชา ชาวกูยเคยเป็นรัฐอิสระ ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20 เคยส่งทูตมาค้าขายกับอยุธยา และเคยช่วยกษัตริย์์เขมรปราบขบถ ต่อมาเขมรได้ใช้อำนาจทางทหารปราบชาวกูยและผนวกอาณาจักรเข้าไป เป็นส่วนหนึ่งของเขมร ชาวกูยอพยพ เพื่อแสวงหาที่ดินอุดมสมบูรณ์ในการเพาะปลูก ชาวกูยอพยพขึ้นเหนือเข้า สู่เมืองอัตตะบือ แสนปาง จำปาศักดิ์ และสาละวัน ทางตอนใต้ของลาว อพยพข้ามลำน้ำโขงเข้าสู่ภาคอีสาน ทางด้านแก่งสะพือ อำเภอโขงเจียม

หลังจากนั้นลูกหลานชาวกูยแยกย้ายกันไปตั้งบ้านเรือน ชาวกูยอพยพเข้าประเทศไทยครั้งใหญ่ในสมัยปลายอยุธยา (พ.ศ.2245-2326) ชาวกูยที่อพยพมา มีหัวหน้าของตัวเอง คนไทยเรียกชาวกูยว่า เขมรป่าดง ส่วนสาเหตุที่มีการเรียกชาวกูยว่าส่วย เนื่องจากในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ชาวกูยได้ตกเป็นไพร่แผ่นดินสยาม อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้บรรดาชายหนุ่มต้องหลบหนีเข้าป่า หรือไม่ก็แอบซุมโจมตีขุนนางที่มาจากเมืองหลวง หลายต่อหลายครั้ง เพราะไม่อยากถูกเกณฑ์แรงงานและส่งส่วยอีก ซึ่งนี้เป็นปัญหาใหญ่ของส่วนกลางมาก

จนในสมัยรัชกาลที่ 2 ชาวกูยจำนวนมาก ถูกคุมตัวมาไว้กรุงเทพ อนุญาติให้สร้างบ้านเรือนอยู่ที่บางบอน ฝั่งธนบุรี การส่งส่วยของชุมชนชาวกูย ปี พ.ศ. ๒๔๐๒ เมืองรัตนบุรี ส่งควาย ๑๖๓ ตัว เมืองสุรินทร์ ส่งควาย ๖๑ ตัว กองพระยาภักดีชุมพล อีก ๓๒ ตัว การจัดเก็บส่วยได้ทวีเพิ่มความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เรื่อยไป จนชาวกูยไม่มีสิ่งของจะส่ง พอถึงปลายรัชกาลที่ ๔ ก็เกิดวิกฤตการส่งส่วยหนัก ถึงขั่นได้ส่งคนกูย มาเป็นส่วยแทน

จึงมีการเรียกว่า "ส่วย" แต่อย่างไรก็ตามชาวกูยเรียกตัวเองว่ากุย กูย โกย หรือกวยซึ่งแปลว่า “คน” ปัจจุบันพบชาวกูยในจังหวัดบุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครราชสีมา มหาสารคาม สุรินทร์ ศรีสะเกษ และสุพรรณบุรี ศาสนา ความเชื่อ และพิธีกรรม ชาวกูยมีการนับถือผีและศาสนาพุทธผสมกัน ภายในชุมชนมีทั้งวัดและศาลผีประจำหมู่บ้าน ชาวกูยยังนับถือวิญญาณ ได้แก่ ภูติผีปีศาจเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา เป็นต้น ชาวกูยยังเชื่อเรื่องผีปอบ และเรื่องขวัญในหมู่บ้าน จะมีแม่เฒ่าทำหน้าที่ดูแลความเจ็บไข้ ชาวกูยเชื่อว่าการเจ็บป่วยเกิดจากการกระทำของผี

จึงมีการอ้อนวอนให้ผีพอใจ โดยมีการรำผีมอ ผู้ที่จะรำผีมอต้องผ่านพิธีไหว้ครู ครอบครู ชาวกูยนิยมเลี้ยงช้าง ซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ชาวกูยจะออกไปจับช้างในป่าด้วยการคล้องช้าง เรียกว่า “โพนช้าง” เป็นการจับช้างโดยหมอช้าง ใช้บ่วง มาศที่เรียกว่า “เชือกปะกำ" ทำจากหนังควายถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ครูบาอาจารย์คล้องเท้า ช้างแล้วผูกกับต้นไม้ และนำมาฝึกใช้งานในการคล้องช้างกระทำปีละครั้ง ราวเดือน 11-12 ช้างที่ตายลงจะมีการฝังอย่างดีและจะขุดกระดูกขึ้นมา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ และในชาวกูยจับช้าง(กูยตำเหร็ย) มีระบบระเบียบพิธีกรรมก่อนออกไปจับช้างอย่างเคร่งครัดโดยมีการตกลงมอบหมายอำนาจให้แต่ละคนกระทำเหนือกลุ่มหรือคณะดังนี้

*มะหรือจา มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยควาญ เป็นผู้ถือท้ายหรือผู้ที่ช้างต่อ *หมอสะเดียง เป็นผู้ชำนาญในการควบคุมช้าง มีประสบการณ์ในการจับช้างป่า จะขี่ช้างอยู่ตรงคอ *หมอสะดำ ทำหน้าที่ควาญ เรียกว่า ควาญเบื้องขวา มีฐานะสูงกว่าสะเดียงสะดำต้องมีประสบ การณ์เคยออกจับช้างป่า มาแล้วอย่างน้อย 11 เชือกขึ้นไป

บางทีเรียกว่าหมอใหญ่ *ครูบา เป็นหมอช้างใหญ่ เป็นหัวหน้าในกลุ่มย่อยหรือหมู่ช้างต่อจะออกจับช้างป่าได้ เมื่อได้รับอนุญาตจากครูบาใหญ่ บางครั้งครูบาออกจับช้างได้ตามลำพัง *ครูบาใหญ่ เป็นหมอช้างใหญ่ หรือประกำหลวง หรือ หมอเฒ่า เป็นผู้อำนายการออกจับช้างแต่ละครั้ง เป็นประธานในพิธีเซ่นผีประกำ และประกอบพิธีกรรมทั้งหลายทั้งปวง ในขณะเดินป่าก็จะเป็นผู้ชี้ขาด และตัดสินใจ

ขณะกระทำการจับช้างป่ามีกฤตาคมสูง สามารถป้องกันภัยทั้งจากภูตผี และสัตว์ป่าด้วยเวทมนต์ ในการออกจับช้างป่าแต่ละครั้ง ครูบาใหญ่จะต้องแสดงความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ ลักษณะการแต่งกายของชาวกูย หญิงสูงอายุจะนุ่งผ้าที่มีลายใส่เสื้อคอกระเช้า ใส่สร้อยคอลูกปัด เงิน นิยมใส่ดอกไม้หอมไว้ที่ ติ่งหู ชาวกูยนิยมทอผ้า เช่น ผ้าจิกกะน้อย เป็นผ้าที่มีลักษณะ คล้ายผ้าหางกระรอกมีสีเดียวเป็นผ้าสำหรับผู้ชายนุ่งในพิธีสำคัญ ๆลักษณะการนุ่งจะนุ่งพับจีบด้านหน้า เหมือนการนุ่ง โสร่ง ผ้านุ่งสตรีนิยมทอหมี่คั่นเป็นทางแนวดิ่งยืนพื้นสีน้ำตา ลอมมีหัวซิ่น พื้นสีแดงลายขิด ตีนซิ่นสีดำมีริ้วขาวเหลืองแดง ผ้าจะกวี เป็นผ้าคล้ายอันลูซีม ของเขมรมีลายทางยาวเป็น ผ้าที่สตรีใช้นุ่งใน ในงานสำคัญ ๆ

เนื้อหาโดย: tonporkung
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
tonporkung's profile


โพสท์โดย: tonporkung
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (5/5 จาก 4 คน)
VOTED: เยี่ยหัว, tonporkung, น้องขนุนเป็นสาวแล้ว, challen
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
การกระทำที่คุณไม่สมควรทำเมื่อมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นชาวกัมพูชาเดือด เมื่อมีบล็อคเกอร์หนุ่มคนกัมพูชา ไปถ่ายรูปล้อเลียนรูปปั้นม้าน้ำมากจนเกินงามเกินไปอดีตพระเอกดัง เตรียมตัวย้ายประเทศไปเยอรมนีเฉลยแล้ว เหตุผลที่ผู้ประกาศข่าวอินเดียหมดสติในห้องส่งตั้งเวทีแปลกๆ แบบนี้..หมดสิทธิ์มั่วหน้าเวทีแน่นอนสิ่งที่คนญี่ปุ่นเรียนรู้ เมื่อมาเมืองไทยสาวสอบติดครู ร้องไห้หนัก เหตุบนลิเกไว้ 4 วัด เข่าทรุดหลังรู้ราคาลิเกหนุ่มเขมรเอวพริ้ว โชว์สเต็ปแดนซ์ K POP ที่งานมินิคอนเสิร์ตญี่ปุ่น!สิ่งที่สาวก iPad " รอคอยมา 14 ปี "
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อดีตพระเอกดัง เตรียมตัวย้ายประเทศไปเยอรมนีทีมเชื่อมจิตจ่อฟ้อง! สื่อปล่อยเฟกนิวส์..ไม่เคยบอกเชื่อมจิตแล้วจะไปนิพพานชาวเน็ตฮือฮา! ขายที่ดินพร้อมบ้าน 200 ล้าน ติดวิวสภาสัปปายะสภาสถานซีอีโอ "ไบแนนซ์" ติดคุก 3 ปี ฐานฟอกเงินหนุ่มเขมรเอวพริ้ว โชว์สเต็ปแดนซ์ K POP ที่งานมินิคอนเสิร์ตญี่ปุ่น!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ตั้งเวทีแปลกๆ แบบนี้..หมดสิทธิ์มั่วหน้าเวทีแน่นอนเมื่อสาวเจอความทรงจำที่หายไป..มาอยู่ที่ใต้สะพานลอยเมื่อหนุ่มทำพัดลมไอเย็นเอง..ว่าแต่มันคลายร้อนได้จริงหรือ ?หากโลกนี้มีเวทมนต์จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ตั้งกระทู้ใหม่