อ.เจษฯ ชี้แจงในเฟสบุคให้กระจ่าง ที่มีคนแชร์สนั่นภาพถ่ายในมือถือ ตาแดงคือคนที่สุขภาพดี
อ.เจษฯ ชี้แจงในเฟสบุคให้กระจ่าง ที่มีคนแชร์สนั่นภาพถ่ายในมือถือ ตาแดงคือคนที่สุขภาพดี
ว่า "ทำไมถ่ายรูป เราถึงเห็นดวงตาของบางคนเป็นสีแดง? ... มันเป็นเรื่องของแฟลชครับ "
มีบางเพจนำเสนอข้อมูลว่า "เวลาถ่ายรูปแล้วเปิดแฟลช ถ้าเห็นดวงตาเป็นสีแดง แสดงว่าสุขภาพดวงตายังปกติอยู่ แต่ถ้าไม่เป็นสีแดง แสดงว่าเกิดอาการสุขภาพตาล้า" .... ทำเอาหลายคนตกใจ เพราะว่าถ่ายรูปออกมา ก็ไม่เห็นเป็นตาแดงอย่างนั้น หรือว่าเราจะมีปัญหาเรื่องดวงตาเสียแล้ว ?!
ไม่จำเป็นเลยนะครับ !! การที่ถ่ายรูปด้วยแฟลชแล้วดวงตาในภาพเป็นสีแดง นั่นเป็นแค่ปรากฏการณ์ทางการภาพถ่าย ที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกคน และมักจะเกิดขึ้นเมื่อถ่ายรูปในที่มืด และตัวแฟลชอยู่ใกล้กับเลนส์ของกล้องมากเกินไป ... ดังนั้น ถ้ารูปที่ถ่ายออกมา ดวงตาไม่เป็นสีแดง ก็ไม่ได้แปลว่าเกิดจากอาการตาล้า แต่เป็นเรื่องของเทคนิคการถ่ายภาพ
เวลาถ่ายภาพด้วยแฟลช แสงแฟลชจะเกิดขึ้นเร็วมาก เกินกว่าที่รูม่านตา (pupil) ของเราจะปิดทัน จึงผ่านรูม่านตาเข้าไป ไปตกกระทบที่บริเวณก้นตา (fundus) ที่ด้านหลังของลูกตา และสะท้อนกลับออกมาผ่านรูม่านตาอีกครั้ง ซึ่งกล้องก็จะบันทึกภาพของแสงที่สะท้อนออกมาจากดวงตานั้น
ทีนี้ การที่แสงที่สะท้อนออกจากดวงตาเป็นสีแดงนั้น สาเหตุหลักก็เพราะว่าบริเวณเนื้อเยื่อชั้นคอรอยด์ (choroid) ซึ่งอยู่ด้านหลังของจอประสาทตา (retina) นั้นมีเลือดมาหล่อเลี้ยงอยู่ จึงทำให้เห็นเป็นสีแดง .. นอกจากนั้น ในดวงตายังมีรงควัตถุอีกหลายชนิด ที่มีส่วนในการทำให้เกิดปรากฏการณ์ตาสีแดงขึ้นด้วย แต่มีบทบาทน้อยกว่าเลือด
สีของดวงตาก็มีผลต่อปรากฏการณ์ตาแดงนี้เช่นกัน คนที่มีตาสีฟ้าจะมีเม็ดรวมวัตถุพวกเมลานิน (melanin) ในบริเวณก้นดวงตาค่อนข้างน้อยกว่าคนที่มีตาสีน้ำตาล จะทำให้คนตาสีฟ้ามักจะถ่ายรูปออกมาก็แล้วเกิดอาการตาแดงได้ง่ายกว่า ... หรือคนที่มีผิวเผือก ก็จะเกิดปรากฏการณ์ตาแดงได้ง่ายขึ้นไปอีก เนื่องจากภาพในดวงตาไม่ได้มีเมลานิน
เนื่องจากปรากฏการณ์ตาแดงนั้น มักเกิดขึ้นเมื่อแสงแฟลชฉายเข้าสู่ดวงตาของผู้ที่ถูกถ่ายรูป ในมุมที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับแสงที่สะท้อนเข้ากลับมาที่เลนส์ อันเนื่องจากตัวของแฟลชอยู่ใกล้กับเลนส์ของกล้องถ่ายรูปมากเกินไป ช่างภาพจึงมีวิธีการต่างๆ ในการลดปรากฏการณ์นี้ เช่น ยิงแสงแฟลชไปที่อื่นให้สะท้อนกลับมาที่ผู้ที่ถูกถ่าย เพื่อให้แสงที่เข้าสู่ดวงตานั้นนุ่มนวลขึ้น / หรือใช้วิธีการแยกแฟลช ให้ห่างออกจากมุมรับภาพของกล้อง เพื่อให้มั่นใจว่าแสงที่มาจากแฟลชนั้นอยู่ในมุมเฉียง ซึ่งเมื่อผ่านเข้าไปในดวงตา จะไม่สะท้อนกลับเข้ามาที่เลนส์ของกล้องถ่ายภาพโดยตรง
แต่ถึงแม้ว่า ปรากฏการณ์ดวงตาสีแดงจากแสงแฟลชนี้ จะไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันถึงสุขภาพตาของผู้ที่ถูกถ่าย แต่ก็สามารถนำมาใช้เป็นการบอกถึงปัญหาดวงตาในเด็กได้
ปกติแล้ว เด็กเล็กดวงตาจะตอบสนองต่อความมืดได้ค่อนข้างรวดเร็ว ทำให้รูม่านตาค่อนข้างเปิดกว้างในที่ที่มีแสงน้อย และทำให้รูปที่ถ่ายออกมามักจะมีดวงตาเป็นสีแดง .... แต่ถ้าพบว่ารูปของเด็กคนนั้นมีตาแดงข้างเดียว อีกข้างไม่เป็นสีแดง นั้นอาจจะบ่งบอกถึงอาการ leukocoria (ตาวาว หรือรูม่านตาสีขาว) ที่อาจมีสาเหตุจากมะเร็งชนิด retinoblastoma ในดวงตา และควรจะรีบพาคนนั้นไปปรึกษาจักษุแพทย์
สรุปว่า ถ้าถ่ายรูปออกมาด้วยแฟลช แล้วไม่มีดวงตาเป็นสีแดง ก็อย่าเพิ่งตกใจกันนะครับ .. อย่างไรก็ตาม ถ้ากลัวเรื่องสุขภาพตาล้า ก็ควรจะพักผ่อนสายตาบ้างนะ อย่าจ้องมองจอภาพของอุปกรณ์ต่างๆ นานเกินไปครับ
ข้อมูลจาก https://en.m.wikipedia.org/wiki/Red-eye_effect