ทรัมป์ประกาศจะใช้ "กำลังทหารหลัก" เข้าจัดการเหตุรุนแรงจากการกลุ่มผู้ประท้วง
ทรัมป์ประกาศจะใช้ "กำลังทหารหลัก" ตามกฎหมายที่ตราขึ้นตั้งแต่ปี 1807 เข้าจัดการเหตุรุนแรงจากการกลุ่มผู้ประท้วง
2 มิ.ย. 2563 เฟซบุ๊กแฟนเพจ โลกและความมั่นคง - Bear Forum for Security Studies ได้รายงานความคืบหน้าล่าสุดระบุว่า เมื่อเช้านี้เวลาประมาณตีห้าครึ่งของประเทศไทย หรือหกโมงครึ่ง ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ออกแถลงการณ์ ว่าจะใช้กำลังทหารเข้าจัดการกลุ่มผู้ประท้วงที่ก่อเหตุรุนแรงจาก เหตุประท้วงต่อต้านการเหยียดผิว สืบเนื่องจากกรณีของ George Floyd
ทรัมป์ได้กล่าวว่า การประท้วง มีเหตุการณ์รุนแรง เป็นอนาธิปไตย เป็นความโกลาหล มีคนเสียชีวิต มีการปล้น มีการทำลายสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และรัฐบาลท้องถิ่นล้มเหลวในการรักษาความสงบและความปลอดภัยให้กับประชาชนของตนเอง
ฉะนั้นแล้ว เขาจะใช้อำนาจของประธานาธิบดี ในการสถาปนาความสงบและความมั่นคงอีกครั้งหนึ่ง โดยการใช้ทรัพยาการทุกอย่างที่รัฐบาลกลางมี ทั้งทหารและพลเรือนในการเข้าจัดการเพื่อหยุดการจลาจล ความรุนแรงต่างๆ รวมไปถึงการปล้นสดมภ์ และการปกป้องสิทธิตามกฏหมายของประชาชนอเมริกัน
ซึ่งจะมีผลทันที เพื่อหยุดการสูญเสียที่กำลังแพร่ขยายไปทั่วประเทศ และแนะนำให้ ผู้ว่าการรัฐทุกแห่งเรียกประจำการ National Guard โดยทันทีด้วยจำนวนที่มากพอที่จะควบคุมสถานการณ์รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฏหมาย
"ถ้าเมืองใดรัฐใดปฏิเสธที่จะใช้กำลังและการปฏิบัติที่เหมาะสมเข้ารักษาความสงบ ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองเมืองนั้นๆ ผมจะใช้กำลังทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกาเข้าปฏิบัติการและแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว" ทรัมป์กล่าว
ทั้งนี้ ทรัมป์ ยังได้ตัดสินใจใช้การปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดในการปกป้องเมืองหลวง Washington DC จากการจลาจล ปล้น ทำลายทรัพย์สินของรัฐ แบบที่เกิดขึ้นคืนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเองยอมรับไม่ได้ โดยทรัมป์ได้กล่าวอีกว่า ในขณะที่กำลังแถลงการณ์อยู่นี้ได้มีการเคลื่อนย้ายกำลังทหารติดอาวุธหนัก ( Heavily Armed Soldiers ) เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นพันพันนาย เข้าปฏิบัติการในเมือง DC
และโดยตลอดการแถลงการณ์ในครั้งนี้ทรัมป์ ได้ย้ำการเป็น Law & Order หรือกฏหมายและความสงบเรียบร้อย ทั้งขึ้นต้นและสรุปจบของการแถลงการณ์
เมื่อแถลงการณ์ออกมามีเนื้อหาและอารมณ์แบบนี้ จึงคาดการณ์กันว่า Trump จะประกาศใช้กฎหมาย Insurrection Act ซึ่งเป็นกฎหมายที่ตราขึ้นตั้งแต่ปี 1807 ที่ให้อำนาจประธานาธิบดี ใช้กำลังทหารบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งปกติกำลังทหารหลัก ของกองทัพสหรัฐปฏิบัติภารกิจบนแผ่นดินสหรัฐไม่ได้ รวมถึงการให้อำนาจรัฐบาลกลางเข้าควบคุมกองกำลัง National Guard เพื่อจัดการความไม่สงบ
ทั้งนี้เคยมีการประกาศใช้ครั้งล่าสุดในการจลาจลที่ LA เมื่อปี 1992 หรือที่เรียกกันว่า กรณี Rodney King
ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ @Global_Mil_Info รายงานเพิ่มเติมว่า มีการเคลื่อนย้ายและใช้กำลังกองพันทหารสารวัตร จากกองทัพบก ใน DC และมีการเตรียมการใช้กำลังจาก หน่วยเคลื่อนที่เร็ว ของกองพลส่งทางอากาศที่ 82 เข้าปฏิบัติการใน DC
คงต้องดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่า การประท้วงครั้งนี้จะสิ้นสุดลงอย่างไร และที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าการตัดสินใจใช้อำนาจ การปฏิบัติ ของสหรัฐอเมริกา จะส่งผลถึงบทบาทของสหรัฐอเมริกาในเวทีโลก รวมถึงส่งผลต่อการปฏิบัติ แนวทางของประเทศอื่นๆ เมื่อเกิดกรณีความไม่สงบคล้ายๆกันนี้อีกด้วย เช่น กรณีจีนกับฮ่องกง เป็นต้น
สหรัฐจะมีบทบาทหรือประณาม หรือ Take Action ต่อกรณีฮ่องกงได้อย่างเต็มที่เหมือนเดิมได้อย่างไร ซึ่งจีนเองก็กำลังใช้ประเด็นนี้ในการตอบโต้ วิพากษ์ และเยาะเย้ยสหรัฐ ผ่านหน้าสื่อต่างๆ และในโลกออนไลน์ว่า สหรัฐฯ เป็นพวก มือถือสากปากถือศีล หรือ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีคู่แข่งทางยุทธศาสตร์ ที่เคยเจอปัญหาเดียวกันกับสหรัฐ และโดนสหรัฐใช้มาตรการของระบบระหว่างประเทศในการตำหนิ ประณาม คว่ำบาตร เมื่อสหรัฐปฏิบัติแบบเดียวกันเสียเอง ย่อมเกิดการตั้งคำถามต่อมาตรฐานของสหรัฐเอง และอาจจะกลายเป็นบรรทัดฐานให้ประเทศอื่นทำตามด้วยก็ได้
เอวัง
ทรัมป์ประกาศจะใช้"กำลังทหารหลัก"...
โพสต์โดย โลกและความมั่นคง - Bear Forum for Security Studies เมื่อ วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2020
https://www.facebook.com/photo?fbid=697694031033289&set=a.300543824081647