เจ้าของโรงแรมภูเก็ตถอดใจ ประกาศขายโรงแรม 5 ดาวนักลงทุนต่างชาติสนใจเทคโอเว่อร์ กดราคาต่ำกว่า 50%
ภาพประกอบเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
31 พ.ค. 2563 ประชาชาติธุรกิจเปิดเผยว่า ธุรกิจโรงแรมทรุดหนัก ต่างถอดใจ ประกาศขายกิจการทั่วไทย ทุกไซด์-ทุกทำเลตั้งแต่ 3 – 5 ดาว ระดับต่ำกว่าร้อยล้านถึงหมื่นล้าน ทั้งวงในและประกาศขายลงเว็บ เฉพาะ 3 จังหวัดท่องเที่ยวหลักภาคใต้ “ภูเก็ต-กระบี่-สมุย” โดยเฉพาะภูเก็ต ด้านทุนใหญ่ ไทย สิงคโปร์ จีน นายหน้าต่างชาติแห่ดาหน้าติดต่อขอกว้านซื้อ กดราคาต่ำกว่า 50-60% ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้
ปัจจุบันภูเก็ตมีโรงแรมทั้งหมด 1,800 แห่ง มีห้องพัก 100,000 ห้อง เจ้าของโรงแรมหลายแห่งบอก อึดได้แค่ไตรมาส 3 จับตาแห่ประกาศขายกิจการเพิ่มอีกเพียบ
ผู้สื่อข่าวเผย เจ้าของโรงแรมโอด “วิกฤตรอบนี้หนักกันสุด ๆ รายได้เป็นศูนย์กันหมด หนักที่สุดเท่าที่ภูเก็ตเจอกันมา โรคซาร์สรายได้ลด 40-50% ยังอยู่กันได้ แต่นี่ zero คนไทยยังไม่กล้าไปภูเก็ตเลย คนทำโรงแรมอยู่แล้วไม่ซีเรียสเขาพร้อมขาย พอเศรษฐกิจดี ค่อยมาสร้างใหม่ก็ได้ ภาพรวมทุกคนอยากเทขาย เก็บเงินสดไว้ดีสุด แต่ต้องการขายราคาเท่าทุน หรือบวกกำไรนิดหน่อย
ตอนนี้มีมาถามกันเยอะ แต่ดีลกันไม่จบ คิดว่าคนซื้อรอจังหวะด้วย หวั่น ๆ อยู่ว่าช่วงไตรมาส 3 น่าจะหืดขึ้นคอ ผู้ประกอบการน่าจะแบกรับภาระไม่ไหว เมื่อถูกแบงก์ไล่บี้ ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ธุรกิจโรงแรมของไทยจะถูกต่างชาติเข้ามาฮุบกิจการไปหมด”
ขณะนี้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในพื้นที่หลายจังหวัดรวมแล้วหลายร้อยแห่ง อยู่ระหว่างประกาศขายกิจการ ขณะที่กองทุนขนาดใหญ่ กลุ่มทุนไทย และนักลงทุนต่างชาติ เช่น สิงคโปร์ จีน แสดงความสนใจที่จะเทกโอเวอร์ แต่ส่วนใหญ่ต้องการซื้อของถูกๆ โดยเฉพาะโรงแรมในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ จ.ภูเก็ต เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จ.กระบี่ รวมถึงโรงแรมในพัทยา จ.ชลบุรี
ภาพประกอบเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
สำหรับโรงแรมที่บอกขายมีทั้งขนาดใหญ่ ระดับ 4-5 ดาว มูลค่าการลงทุน 1,000-10,000 ล้านบาท ขนาดกลาง ระดับ 3 ดาว บอกขายราคา 500-1,000 ล้านบาท และโรงแรมขนาดเล็ก ระดับราคาตั้งแต่ 50-100 ล้านบาท
สาเหตุมาจากโรงแรมเหล่านี้มีรายได้หลักจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 90% ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปเกือบ 100 เปอร์เซ็น
ภาพประกอบเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
แม้รัฐบาลไทยจะเริ่มคลายล็อกกิจการโรงแรมเพื่อดึงให้คนไทยเที่ยวไทย ก็ไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้มีรายได้กลับมาพอจะคุ้มทุน อีกทั้งแนวโน้มว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิดทั่วโลกจะลากยาวไปอีก 2 ปี กว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นกลับมา การประคองกิจการให้อยู่รอดได้กว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นจึงเป็นเรื่องเหนื่อยและยากเกินกำลัง
อ้างอิงจาก: ประชาชาติธุรกิจ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.prachachat.net/tourism/news-471621