ล็อกตัว "แม่บุญธรรม" ส่อแวววางยา เอาเงินบริจาค
ผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งระบุว่าว่นนี้กองปราบปรามผู้สื่อข่าวรายงานว่าพ.ต.อ.ปทักข์ขวัญนาผกก.4 บก.ป. พร้อมด้วยพ.ต.ท.ณัฐพงษ์เกิดเอี่ยมรองผกก.4 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกก.4 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมน.ส.นิษฐาวงวาลหรือแม่ปุ๊กอายุ29 ปีชาวกทม. ตามหมายจับศาลอาญาที่675/2563 ลง18 พฤษภาคม2563 ข้อหา“รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ฉ้อโกงประชาชน” ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งภายในซอยเทิดราชัน13 ถ.เทิดราชันแขวงสีกันเขตดอนเมืองกทม. โดยจับกุมตัวได้เมื่อวันที่18 พ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับการร้องเรียนว่าผู้ต้องหารายนี้ได้มีการพฤติการณ์ฉ้อโกงประชาชนโดยการโพสต์ข้อความเปิดรับบริจาคเงินและหลอกขายสินค้าเช่นหน้ากากอนามัยผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์อ้างว่าจะนำเงินไปรักษาลูกซึ่งป่วยเป็นโรคประหลาดมีไม่กี่คนที่เป็นจนมีคนหลงเชื่อจ่ายเงินสั่งสินค้าและบริจาคเงินช่วยเหลือกว่า3,000 รายมีการโอนเงินกว่า8,000 ครั้งรวมมูลค่ากว่า10 ล้านบาททางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาข้อเท็จจริงจนกระทั่งพบความผิดปกติในคดีหลายอย่างโดยเฉพาะอาการป่วยประหลาดของน้องอิ่มบุญเด็กชายอายุ2 ขวบที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นลูกแท้ๆของตัวเองหลังมีอาการอาเจียนเป็นเลือดตัวบวมเดินไม่ได้จนต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต
ต่อมาทางแพทย์จะมีการตรวจพบสารเคมีประเภทออกฤทธิ์เป็นกรดคล้ายกับสารเคมีที่เป็นส่วนผสมของน้ำยาล้างห้องน้ำหรือน้ำยาซักฟอกในร่างกายจำนวนมากประกอบกับจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหารายนี้ยังพบอีกว่าก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยได้รับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อน้องอมยิ้มอายุ3 ขวบมาอุปถัมภ์เลี้ยงดูก่อนที่ต่อมาจะเสียชีวิตลงด้วยอาการป่วยประหลาดลักษณะเดียวกันจึงทำให้มีการตั้งข้อสงสัยว่าอาการป่วยของเด็กทั้งสองคนจะเกิดจากการกระทำของผู้ต้องหารายนี้เพื่อสร้างเรื่องให้ดูน่าสงสารในการหลอกเงินจากคนอื่นจึงได้พยายามรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆจนนำไปสู่การออกหมายจับและสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ด้านแม่เด็กกองปราบปรามออกหมายจับคดีฉ้อโกงและทำร้ายร่างกายเด็กจนได้รับอันตรายสาหัสถูกจับกุมเมื่อวันที่18 พ.ค. 63 ปัจจุบันถูกฝากขังที่เรือนจำคลองเปรมและคัดค้านการประกันตัวทั้งนี้ทีมสหวิชาชีพมีข้อสงสัยว่าเด็กทั้ง2 คนอาจจะไม่ใช่ลูกแท้ๆข้อสันนิษฐานดังนี้1. กรณีน้องอมยิ้มกองปราบสืบทราบว่าในใบเกิดชื่อพ่อแม่เป็นบุคคลอื่น2. กรณีน้องอิ่มบุญมีการแจ้งเกิดเป็นชื่อแม่แต่ไม่มีการฝากท้องชื่อพ่อไม่ปรากฎซึ่งหมอขอให้ตรวจDNA แต่แม่ไม่ยินยอมจึงต้องขออำนาจศาลให้ตรวจDNA ในกระบวนการ3. แม่มีการเปลี่ยนชื่อถึง4 ครั้ง