สงครามเย็นหลังโควิด-19 ไต้หวันกลับเข้า WHO จะกลายเป็นการเมืองที่ขัดหลักการ "จีนเดียว" หรือไม่?
เพจ บูรพาไม่แพ้ โพสต์บทความที่นา่สนใจ สงครามเย็นหลังโควิด-19 ปมเหตุที่1: ไต้หวันกลับเข้า WHO จากไวรัสร้ายกลายเป้นเรื่องการเมือง ที่ขัดหลักการ "จีนเดียว"
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่มนุษยชาติผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่สอง หลายฝ่ายต่างก็พูดถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข แต่ไม่ทันได้มีวันนั้น ประชาคมโลกก็เข้าสู่ยุคสงครามเย็น (Cold War) แบ่งข้างประเทศกลุ่มตะวันตก (สหรัฐอเมริกา พันธมิตรนาโต ฯลฯ) และประเทศกลุ่มตะวันออก (สหภาพโซเวียตและพันธมิตรในสนธิสัญญาวอร์ซอ) ต่อสู้เพื่อครองความเป็นใหญ่ ช่วงชิงเครือข่ายอำนาจในภูมิภาคต่าง ๆ ผ่านสงครามตัวแทนทั่วโลก และสงครามรูปแบบอื่น ๆ
.
เช่นเดียวกัน หลังความวิบัติของโรคระบาดใหญ่ โควิด-19 ผู้เชี่ยวชาญฯ เริ่มพูดถึงหลายปมใหญ่ที่จะขมวดกันเป็นสงครามเย็นครั้งใหม่ ประชาคมระหว่างประเทศต่างระแวงกันอย่างฝังลึก ขณะที่ "สงครามเย็นทางเทคโนโลยี" ระหว่างจีนและตะวันตก ก็ยังไม่ได้คลี่คลาย
.
ปมเหตุหนึ่งในนั้นรวมถึงความตึงเครียดทางการเมือง อำนาจอธิปไตยเหนือไต้หวันของจีน
.
กระแสข่าวในสื่อตะวันตก รายงานข้อมูลการบริหารสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ของไต้หวัน ว่าเป็นกรณีศึกษาความสำเร็จสำหรับโลก ประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน ก็ใช้โอกาสนี้ประกาศพร้อมช่วยประเทศอื่นทั่วโลก ต่อสู้กับโควิด – 19 ทั้งในด้านแบบแผนฯ และในเวชภัณฑ์ปัจจัยอื่น ๆ ผ่านการบริจาคหน้ากากอนามัยให้กับประเทศใดก็แล้วแต่ที่ต้องการ การเพิ่มสายพานการผลิตยาต้านโรคมาลาเรีย เพื่อส่งออก และ การให้เทคโนโลยีสำหรับการตรวจเชื้อ และเทคโนโลยีสืบหาเส้นทางการระบาดของโรค (Contact Tracing) ฯลฯ
.
อย่างไรก็ดี แม้จีนจะแสดงผลงานยิ่งใหญ่ในการจัดการไวรัสฯ ที่เมืองอู่ฮั่นและระดับมณฑลต่าง ๆ ทั่วแผ่นดินจีนได้อย่างเบ็ดเสร็จ อีกทั้งให้ความช่วยเหลือประชาคมโลกในการพิชิตวิกฤต แต่มิใยที่ข้อมูลรายงานฯ ของทางการจีน ด้านหนึ่งกลับถูกแย้งว่ายังไม่ใช่ตัวเลขแท้จริง ยังมีหลายหน่วยงานสำรวจ คาดการณ์ว่าจำนวนที่แท้จริงน่าจะสูงกว่าตัวเลขทางการนี้ถึง 4 เท่า แม้จีนอ้างว่าข้อมูลคาดการณ์เหล่านั้นไม่ยืนอยู่บนฐานความจริง แต่อีกฝ่ายก็ยิ่งกดดันเรียกร้องให้หน่วยงานนานาชาติตรวจสอบ
.
นักยุทธศาสตร์มองว่าไต้หวันใช้ยุทธศาสตร์อํานาจละมุน หรือ อํานาจแบบอ่อน (soft power) กับความสัมพันธ์ทวิภาคีแต่ละชาติ อันเป็นหนทางเดียวของไต้หวันในการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมกับประชาคมโลกในสถานะเอกเทศจากจีน
.
การที่นานาชาติ (สหรัฐฯ แคนาดา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย) ให้การสนับสนุนรับรองไต้หวันซึ่งจีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในอธิปไตยดินแดนของจีน เข้าร่วมองค์การอนามัยโลกในสถานะสมาชิกเต็มรูปแบบ เป็นสิ่งที่จีนคัดค้านเสมอมาว่าขัดหลักการ "จีนเดียว"
.
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลีย กล่าวเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ว่า ออสเตรเลียจะให้การสนับสนุนไต้หวันกลับเข้าองค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเต็มที่หลังจากถูกกันสถานะออกไปเมื่อ 4 ปีก่อน และว่า “องค์การอนามัยโลกต้องรักษาสัมพันธภาพอันใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านสุขภาพทั้งหมด"
.
สำหรับประเด็น "จีนเดียว" นั้นโฆษกกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียว่า “การเป็นสมาชิกขององค์กรฯ ยังรวมถึง สถานะมลรัฐ (statehood) ด้วย เราจึงสนับสนุนการมีส่วนร่วมของไต้หวันในฐานะผู้สังเกตการณ์ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายจีนเดียวของเรา”
.
ไต้หวันกลับเข้า WHO นี้ จะเป็นชนวนเหตุสงครามเย็น ที่ลามไปถึงสงครามการค้า ฯลฯ หรือไม่ในระยะยาว ความตึงเครียดนี้ คาดว่าจะเกิดขึ้นในการประชุมสมัชชาอนามัยโลกซึ่งมีกำหนดการในวันที่ 17-21 พฤษภาคมนี้ ...
................
ภาพ - โรงแรม Grand Hotel Taipei เปิดไฟห้องพักเป็นคำว่า ZERO ร่วมฉลองไม่พบผู้ป่วยใหม่จาก COVID-19 เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา
ติดตามตอนต่อไปได้ที่...
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/TheDongFangBubai/photos/a.541063909609692/1070585879990823/?type=3&theater
เพจบูรพาไม่แพ้
https://www.epochtimes.com/b5/20/4/15/n12031617.htm