ศบค.แถลงอัพเดทติดเชื้อโควิดเพิ่ม 111 เสียชีวิตอีก 3 ข้อมูลชี้ชัดปัญหาใหญ่ พวกเดินทางจากตปท.
จากสถานการณ์โรคปอดอักเสบชนิดรุนแรงที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด -19 ที่ชาวไทยกำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น. เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 1,431,540 ราย มีผู้เสียชีวิต 82,058 คน ในจำนวนนี้มีผู้รักษาหายแล้ว 302,140 ราย
โดยสหรัฐอเมริกายังคงครองอันดับหนึ่งของโลกที่มียอดผู้ป่วยสะสมพุ่งไปถึง 400,412 ราย รองลงมาคือสเปนที่มียอดผู้ป่วยสะสมที่ 141,942 รายอันดับสามเป็นอิตาลีอยู่ที่ 135,586 ราย อันดับสี่เป็นฝรั่งเศสที่ 109,069 ราย อันดับที่ห้าตกเป็นของเยอรมันที่ 107,663 ราย อันดับที่หกเป็นจีนที่ 81,802 ราย อันดับเจ็ดเป็นอิหร่านมีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 62,589 ราย อันดับที่แปดเป็นสหราชอาณาจักรที่ตัวเลข 55,242 ราย อันดับที่เก้าเป็นตุรกีที่ 34,109 ราย และอันดับสิบเป็นสวิตเซอร์แลนด์ที่ 22,253 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น.)
ล่าสุด ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข และ โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้อัพเดตผู้ป่วยประจำวันที่ 8 เมษายน 2563 เวลา 11.30 น. ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 111 ราย โดยยอดสะสมอยู่ที่ 2,369 ราย หายป่วยสะสม 888 ราย ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 30 ราย
โดยรายละเอียดผู้เสียชีวิตมีดังต่อไปนี้
- ชายรัสเซีย 40 ปี มีประวัติไปภูเก็ต เริ่มป่วย 22 มี.ค. กลับชลบุรีเพื่อรักษาตัว 25 มี.ค. ที่ รพ.เอกชนด้วยอาการ ไอ เจ็บคอ (ไม่แอดมิดแต่กักตัวอยู่ที่บ้าน) เสียชีวิต 5 เม.ย. 2563
- ชายอินเดีย 69 ปี โรคประจำตัวเบาหวาน+หัวใจ เริ่มป่วย 21 มี.ค. ด้วยอาการไข้ 39.2 ไอ น้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ ถ่ายเหลว เข้า ICU ในวันเดียวกัน เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน 29 มี.ค. เสียชีวิต 7 เม.ย. 2563
- ชายอเมริกัน 69 ปี โรคไตเรื้อรัง เริ่มป่วย 9 มี.ค. ด้วยอาการ ไอ หายใจลำบาก รักษาใน รพ.บุรีรัมย์ 22-23 มี.ค. แต่อาการทรุดลง จนเสียชีวิตวันที่ 7 เม.ย. 2563
รายละเอียดผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศไทย ประจำวันที่ 8 มษายน 2563 ทั้งสิ้น 111 รายมีดังนี้
กลุ่มแรก ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 69 ราย
1.ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 37 ราย
1.1 สัมผัสใกส้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่ กทม. 18 ราย นนทบุรี 7 ราย ยะลา 6 ราย รวม 37 ราย
2.ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 11 ราย
2.1 คนไทยเดินทางกลับจากต่งประเทศ (มาเดือน มี.ค.) 2 ราย
2.2 ไปสถานที่ชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้าตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 3 ราย
2.3 อาชีพเสียง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ เป็นต้น 4 ราย
2.4 บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข 2 ราย
และกลุ่มที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค (จากการดันหาเชิงรุกในพื้นที่เสียงในจ.ภูเก็ต 18) 21 ราย โดยเคสที่ยืนยันจากผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantines (เดินทางมาจากอินโดนีเชีย) 42 ราย รวมทั้งสิ้น 111 ราย
ทั้งนี้กลุ่มที่เดินทางกลับมาจากอินโดนีเซีย กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มใหญ่มากกลุ่มหนึ่ง ที่เกิดการติดเชื้อ โดยวานนี้ มีผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ
- การ์ต้า 14 ราย
- เกาหลีใต้ 57 ราย ซึ่งจากเกาหลีใต้ ไม่ผ่านการตรวจคัดกรอง 8 ราย ส่งต่อ รพ.สมุทรปราการ
ตอนนี้มี 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรักษาอยู่ คือ กำแพงเพชร ,ชัยนาท ,ตราด ,น่าน ,บึงกาฬ ,พังงา ,พิจิตร ,ระยอง ,สิงห์บุรี และ อ่างทอง โดยภูเก็ต มีอัตราการป่วยต่อประชากร 1 แสนราย มากที่สุดคือ 33.9 ราย (ต่อประชากร 1 แสนราย)