นพ.อัษฎางค์ เผยพ่นน้ำยาละอองฝอย ยิ่งทำให้เชื้อแพร่ระบาดหนักกว่าเดิม
เพจดังได้ออกมาระบุว่า มีคนมาปรึกษาประมาณว่า เนี่ย แถวบ้านเขามีคนติดเชื้อในข่าวด้วย แล้วจะติดต่อขอให้ จนท มาฉีดพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ แต่ จนท ไม่ยอมฉีดสเปรย์ให้ ทำไงดี
จนท ทำถูกแล้วครับ เพราะการฉีดพ่นละอองฝอยนี่แม่งเสี่ยงมาก ปกติถ้าจะทำความสะอาดบ้าน หรือชุมชนที่มีคนติดเชื้อ ใช้วิธีผสมน้ำยาแล้วเช็ดพื้นจะดีกว่า
เพราะถ้าเอาสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อฉีดอัดลงพื้น เผลอๆ เสลด น้ำลาย เชื้อโรค บลาๆ บนพื้น แม่งฟุ้งกระจายขึ้นมา ฉิบหายยยยยยเลยครับ ดังนั้น ถ้าจะทำความสะอาดขอให้เลือกวิธีที่เหมาะสม อย่าใช้พวกสเปรย์ฉีดให้ฟุ้งกระจาย
ทำเยอะเล่นใหญ่ ไม่ได้แปลว่าจะดีเสมอไป ทำให้เหมาะสมตามหลักการ ดีที่สุดครับ เรามีเคสตัวอย่างที่เกาหลีใต้มาละ แบบในโบสถ์แห่งนึง (อีกแล้ว) แม่งเอาน้ำยาผสมไรไม่รุใส่ฟอกกี้ ฉีดพรมให้สาวก แล้วฟอกกี้แม่งปนเปื้อน สุดท้ายติดเชื้อไปอีกหลายสิบคน สยองจริงๆ
ส่วนประเด็นการทำความสะอาดอันนี้โฆษกกรมควบคุมโรคเคยอธิบายไว้ละ สนใจลองอ่านกันดู
วันนี้ (18 มีนาคม 2563) นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีที่มีการฉีดพ่นละอองฝอยในสถานที่สาธารณะและสถานประกอบการ นั้น กรมควบคุมโรค ขอแนะนำว่าการฉีดพ่นละอองฝอยหรือสารเคมีแอลกอฮอล์ ดังกล่าว จะทำให้ละอองฝอยฟุ้งกระจาย หากฉีดพ่นในประชาชนที่เข้าข่ายป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อาจทำให้เชื้อฟุ่งกระจายและอาจเพิ่มความเสี่ยงไปยังประชาชนทั่วไปได้
กรมควบคุมโรค ขอแนะนำให้ทำความสะอาดอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับพื้นผิว เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังนี้ 1.แอลกอฮอล์ 70% เหมาะสำหรับพื้นผิวที่เป็นโลหะ 2.ผงซักฟอกผสมน้ำร้อน 70 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับวัสดุที่เป็นผ้า 3.น้ำยาฟอกขาว (6% สารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Sodium hypochlorite) 1 ส่วน ต่อน้ำ 10 ส่วน เหมาะสำหรับพื้นที่ผิวที่มีละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย 4.ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (3% H2O2) 1 ส่วน ต่อน้ำ 5 ส่วน แต่ควรระมัดระวังการกัดกร่อนพื้นผิวและการสัมผัสของร่างกาย