10 สิ่งดีๆ ที่มาพร้อมกับโควิด-19
หลายคนคงคิดว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้มีแต่ทำให้ชีวิตของเราแย่ลง เศรษฐกิจแย่ สุขภาพ ความเป็นอยู่ของเราแย่ลง ไม่เห็นมีข้อดีเลยสักอย่าง หากคุณลองมองมุมต่าง ทุกอย่างใดๆในโลกนี้มีเหตุและมีผลเสมอ ธรรมชาติได้เป็นผู้สร้างและกำหนดเอาไว้แล้ว มีเกิดย่อมมีดับไปเป็นอนิจจัง แล้วตัวเราจะมัวแต่ไปยึดติดกับโรคระบาด ไปยึดติดกับสถานการณ์ในปัจจุบันเพื่ออะไร มันไม่แน่นอน แต่ความสุขที่เกิดขึ้นภายในใจของเราต่างหากละเป็นสิ่งที่แน่นอน อย่าสนใจโลกภายนอกจนเก็บมาเป็นกังวล สร้างความทุกข์ให้กับตัวเรา เพียงเรายึดทางสายกลางตามหลักที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ เราก็จะไม่เป็นทุกข์กับโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้น เตรียมพร้อมรับมือและก้าวผ่านวิกฤตไปให้ได้โดยไว หากเราลองคิดทบทวนดูให้ดีเราจะพบสิ่งดีๆที่มาพร้อมกับโควิด 19 ดังนี้ โปรดใช้ใจมอง อย่าใช้ตามองเพียงอย่างเดียว
1.เราเห็นคุณค่าของงานมากขึ้น ในสถานการณ์ปัจจุบันเราไม่อยากทำงาน ไม่อยากตื่นไม่ทำงาน ไปสาย ขี้เกียจ ทำงานแค่พอผ่านๆไปแต่ละวัน แต่เมื่อโรคระบาดเกิดขึ้น ต้องโดนนายจ้างสั่งหยุดงาน สั่งพักงาน ให้นำงานกลับมาทำที่บ้าน เราจะรู้เลยว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้งานมีค่าขนาดนี้เลยเหรอ เพราะชีวิตที่อยู่แต่บ้าน วันๆไม่ทำอะไรเลยมันทำให้เรารู้สึกเบื่อ รู้สึกไม่มีความสามารถ รู้สึกไม่ภาคภูมิใจ อย่างน้อยๆทำให้เราอยากรอวันที่จะได้ทำงานและตั้งใจไว้ว่าจะทำงานให้เต็มที่หากวันนั้นมาถึง
2.เราเห็นคุณค่าของคนมากขึ้น จะมีสักกี่คนละที่จะอยู่ข้างๆเรา หลายคนกลัวติดโรคกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูงที่เราคอยเลี้ยงตลอดเวลาเงินเดือนออก ลูกน้อง คนรู้จักที่ไปมาหาสู่ แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นใครๆก็รักตัวกลัวติดเชื้อกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม่แต่แฟนหรือคนรักต่อให้รักกันแค่ไหนก็คงต้องห่างกันก่อนในช่วงนี้ แต่คนที่จะไม่ยอมห่างเราเลยเห็นทีจะมีแค่พ่อกับแม่และคนในครอบครัวเท่านั้นที่เค้ามั่นใจว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเค้าจะดูแลและปกป้องเราให้ดีที่สุดไม่ปล่อยให้เราต้องเผชิญโรคร้ายเพียงลำพังอย่างน้อยๆคำพูดที่คอยเตือนเราให้ระวังตัวเองเป็นสิ่งที่มีค่ามากแสดงถึงความห่วงใยจากใจจริงที่แทบจะหาไม่ได้เลยจากบุคคลอื่น เราจะมีเวลาให้ท่านมากขึ้น หันกลับมามองคนในครอบครัวมากขึ้น ความรักความอบอุ่นที่ท่านมีให้ยังมีเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่เล็กจนโต จนแก่ จนเราอายุแค่ไหนพ่อและแม่ก็ยังเป็นห่วงและถ้าเป็นไปได้หากเราเป็นคนที่โชคร้ายขึ้นมาท่านพร้อมที่จะมาป่วยแทนเราด้วยซ้ำ
3.เรามีเวลาทบทวนตัวเองมากขึ้น ได้ฟังเสียงหัวใจตัวเองชัดขึ้น มีเวลาให้กับการวางแผนชีวิต วางแผนครอบครัว วางแผนการเงิน ทบทวนสิ่งที่ผิดพลาดและแก้ไขทำวันนี้ให้ดีที่สุดและพัฒนาตัวเองต่อไป
4.เราเห็นคุณค่าของชีวิตตนเองมากขึ้น เมื่อมีผู้คนล้มตาย และป่วยเป็นจำนวนมาก เราเองก็ไม่รู้ว่าจะโชคร้ายวันไหน ทำให้เรานึกอยู่เสมอว่าใช้ชีวิตวันนี้ให้คุ้มค่าแล้วหรือยัง ใช้ชีวิตให้เหมือนวันนี้คือวันสุดท้ายที่มีลมหายใจอยู่แล้วหรือยัง ใส่ใจคนในครอบครัว ดูแลตัวเอง รักษาชีวิตให้คุ้มกับที่พ่อแม่เลี้ยงดูเรามาแล้วหรือไม่ ชีวิตคนเรามันสั่นนัก จงรีบหาความสุขให้ตัวเองและคนที่คุณรักในทุกวัน เมื่อเราจากโลกนี้ไปแล้วจะได้ไม่เสียใจทีหลังในสิ่งที่เราไม่เคยทำให้กับคนที่เรารักเลย
5.ได้มีเวลาศึกษาธรรมมะมากขึ้น มีเวลาสวดมนต์ภาวนา นั่งสมาธิให้จิตใจแจ่มใส และสร้างสมบารมี รู้บาปบุณคุณโทษและจะค้นพบว่าสุดท้ายแล้วชีวิตก็เอาอะไรไปไม่ได้นอกจากความดีและบาปบุญเท่านั้น
6.มีเวลาใส่ใจสัตว์เลี้ยง หรือให้ความรักความอบอุ่นแค่สัตว์ที่เรารัก หันมาดูแลเอาใจใส่มากขึ้น ได้เพลิดเพลินกับการเลี้ยงสัตว์และจะได้ไม่คิดวิตกกังวลกับโรคจนเกินไป
กระต่ายน้อย
น้อนเเมว
7.เห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น ใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด รู้จักคำนวณรายรับรายจ่าย คำนวณเงินเก็บ วางแผนการใช้เงิน และใช้จ่ายเงินให้น้อยที่สุด
8.มีเวลาทำกับข้าวกินเอง ไม่ต้องกินของซื้อจากข้างนอก ห่างไกลจากผงชูรส สารปนเปื้อน สารปรุงแต่งรสอาหาร อาหารรสจัด ผักมีสารพิษตกค้าง ได้ทานอาหารฝีมือตนเอง และประหยัดงบประมาณอีกด้วย
หมี่น้ำใส ใส่ไข่เเละผักบุ้ง
หมูผัดสะตอ
9.งดการเที่ยวห้าง ช๊อปปิ้งละลายทรัพย์ เที่ยวหรู ทานอาหารร้านอาหารแพงๆ ซื้อเสื้อผ้าจนไม่มีตู้ใส่ การไม่มีอะไรบ้าง เราจะได้เห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ พอใจในเสื้อผ้า รองเท้า หรือของใช้ที่มี ต้องการเฉพาะของที่จำเป็นเพื่อการดำรงชีพเท่านั้น เพราะของนอกกายต่างๆเหล่านี้ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆเลย สุดท้ายแล้วเราต้องการแค่มีข้าว มีน้ำ มีเสื้อผ้าพอใส่เท่านั้นเพราะออกไปไหนไปโชว์ตัวสวยๆหล่อไม่ได้หรอก คงทำได้แค่ใส่อยู่บ้านเท่านั้น
10.ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อยู่กับบ้าน ธรรมชาติรอบตัว ถ้าแถวบ้านใครมีที่ว่างพอจะพูดพืชผักกินเองจะเป็นการดีเลยทีเดียวเพราะได้ปลูกผักไว้กินเอง เช่น ข้าวโพด พริก ตะไคร้ ผักสวนครัวต่างๆ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกได้กินผักปลอดสารพิษอีกด้วย
ปลูกข้าวโพด
นี้เป็นเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นที่ผู้เขียนได้คัดสรรมาแบ่งปันสิ่งดีๆ เห็นไหมละคะว่าภายใต้โรคระบาดที่เลวร้ายแต่ยังมีสิ่งดีซ่อนอยู่แค่เพียงเรามองเห็นและปรับตัวตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราจะเจอความสุขและอยู่กับโรคระบาดได้แบบไม่ทุกข์อีกต่อไป
รูปภาพโดย : sutana