เคอร์รี่แจงแล้วข่าวพนักงานลาออก อ้างไม่เป็นความจริง ตัวแทนบริษัทกำลังตัดสินใจจะดำเนินคดีกับคนปล่อยข่าวหรือไม่
จากกรณีกระแสโซเชียลที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ท้องฟ้าสีคราม ได้เผยเรื่องเราที่ประสบมากับตัว เกี่ยวกับกรณีที่เจ้าตัวนั้นได้ส่งสินค้าให้ลูกค้า แต่นานผิดปกติที่สินค้าไม่ถึงสักที เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปเอาสินค้าด้วยตัวเองที่คลังสินค้าหนองแขม เพื่อไปส่งให้ลูกค้าอีกที แต่ภาพที่เห็นทำเอาเจ้าตัวถึงกับอึ๊งเมื่อเห็นกองสินค้าที่รอนำจ่ายกองเป็นภูเขา เหตุเพราะว่าพนักงานลาออกหมดจนกลายเป้นปัญหา โดยเธอได้ระบุว่า เตือนใครส่งมาฝั่ง หนองแขม บางแค บางหว้าแถบฝั่งธน. โดยเฉพาะบางแวกทางพนักงานแจ้งว่าไม่มีใครเข้ามารับสินค้าที่คลังเพราะพนักงานลาออกทั้งหมด สภาพคลัง หนองแขม 1 ใน 10 กอง เหมือนขยะเลย ที่ส่งมาจากสมุทรสาคร แล้วมาแยกสินค้าที่นี้ ตอนนี้คือเละมาก พนักงานลาออกหมด ใครที่ส่งมาหาลูกค้าแถบฝั่งธนคือเละมากหาของไม่เจอค่ะ ต้องขนพนักงานมาช่วยรื้อ เค้ารื้อกันตั้งแต่ตี1.
สรุปคือมีปัญหาเรื่อง พนักงานลาออกหลายสาขาค่ะ ปิดข่าวค่ะ ว่าไม่หยุดที่แท้คือให้พนักงานทำกันเองสายด่วน1217 ระบบปิด ปล.คือทำไมพนักงานตามช้อปหวงเบอร์คลังสินค้ามากเลยถ้าทางช๊อปให้เบอร์คลัง พวกเราจะได้ไปตามสินค้ากันเองแต่นี่หวงเบอร์มาก โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของร้านค้าไม่คำนึงถึงความเสียหายของผู้บริโภค ดิฉันต้องการให้พนักงาน อ่านตรงนี้นะคะ รบกวนช่วยปรับปรุงสถานการณ์แบบนี้ทุกคนต้องการเงินเพราะบางคนส่งสินค้าเป็นเก็บปลายทางเค้ารอเงินเข้าบัญชีเขาแต่ ไม่สนใจอะไรเลยโทรไป 20 สายก็อ้างว่ายุ่ง
ล่าสุด ทางเพจ "Kerry Express Thailand" ได้ออกประกาศชี้แจงเรื่องดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้
ประกาศ เรื่อง พนักงานลาออกไม่เป็นความจริง
จากกรณีที่มีการแชร์กันในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับพนักงานเคอรี่ลาออกจนทำให้พัสดุไม่ได้จัดส่งเป็นจำนวนมากนั้นบริษัทขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าว ไม่เป็นความจริง ปัจจุบัน เรายังมีพนักงานที่ปฏิบัติงานตามปกติจำนวนทั้งสิ้นกว่า 20,000 ชีวิต ทั้งนี้ จากปริมาณพัสดุที่ต้องการจัดส่งเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เราได้เร่งดำเนินการแก้ไขโดยได้จัดทีมช่วยเหลือฉุกเฉินเข้าไปบริหารจัดการพัสดุที่คงค้างในคลังสินค้าแต่ละแห่งอย่างเร่งด่วน บริษัทมิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและในขณะนี้พนักงานของเราทุกภาคส่วนได้เร่งมือดำเนินการเพื่อจัดส่งพัสดุให้ถึงมือผู้รับปลายทางโดยเร็วที่สุด และบริษัทฯ ได้ออกมาตรการในการจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้
1. พัสดุที่ส่งก่อนและภายในวันที่ 4 เมษายน 2563 เราจะดำเนินการจัดส่งให้ถึงมือผู้รับแล้วเสร็จภายในสัปดาห์ที่จะถึงนี้
2. จัดให้มีการจ้างงานเพิ่มกว่า 1,000 อัตรา เพื่อเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการทั้งในฝ่ายปฏิบัติการและ Call Centre รวมถึงการเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานอีกด้วย
3. ปรับเปลี่ยนระยะเวลาที่ใช้ในการจัดส่งสินค้าชั่วคราวจาก 1 วันเป็น 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละปลายทาง โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับ
1. อุปกรณ์ทางการแพทย์ และ สินค้าป้องกันเกี่ยวกับ COVID-19 และ
2. สินค้าที่มีวันหมดอายุ หรือมีระยะเวลาจำกัด ถูกจัดส่งก่อนสิ่งของอื่นๆ ทางบริษัทฯขอความร่วมมือลูกค้าที่มีความต้องการพัสดุด่วนไม่เดินทางมาที่คลังสินค้าเพื่อติดต่อรับพัสดุเอง
เนื่องจากบริษัทต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญและปฏิบัติตามข้อกำหนดในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และเพื่อไม่เป็นการกีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ซึ่งจะทำให้ปฏิบัติงานได้ช้าลง ดังนั้น ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าภายในบริเวณคลังสินค้า และพื้นที่โดยรอบ สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากความต้องการจัดส่งพัสดุที่เพิ่มขึ้นทั้งอุตสาหกรรม เรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตามบริษัทฯ และพนักงานทุกคนกำลังพยายามกันอย่างเต็มที่และสุดความสามารถเพื่อบรรลุความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าและขอยืนยันในการดำเนินงานโดยคำนึงถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญในสถานการณ์เช่นนี้ คือเราต้องช่วยให้ประเทศไทยและคนไทยก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน X ทั้งนี้ขออภัยในความไม่สะดวก ขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านที่วางใจใช้บริการเราอย่างเสมอมา
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
อย่างไรก็ตามคนที่ปล่อยข่าว ตัวแทนบริษัทเผยว่ากำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ โดยต้องดูจากความเสียหายที่เกิดขึ้น.
.
.
เพจเคอร์รี่