นักรบชุดกาวน์ลำพูนโหมงานหนัก ใส่ชุดPPEสิ้นใจขณะปฏิบัติหน้าที่
อีกหนึ่งข่าวเศร้าของวงการการแพทยืที่ต้องสูญเสียบุคลากรไปท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตไวรัสโควิด-19 โดยในวันนี้มีการรายงานว่า นายชัยวัฒน์ ศรียอง เจ้าหน้าที่แผนกเอกซเรย์ ร.พ.ลำพูน ซึ่งคอยดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงและผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.ลำพูน เสียชีวิตอย่างกระทันหันท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน
ทั้งนี้ในโลกออนไลน์มีการโพสตืเรื่องนี้ว่า วันนี้ 4 เมษายน 2563 เกิดเหตุการณ์เศร้า เมื่อนักรบเสื้อกาวน์ ที่คอยดูแล ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง และผู้ติดเชื้อโควิด19 ในจังหวัดลำพูน โดยผู้เสียชีวิต ชื่อนาย ชัยวัฒน์ ศรียอง เป็นเจ้าหน้าที่แผนกเอกซเรย์ ของโรงพยาบาลลำพูน วันนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อไปเอ็กซเรย์ปอด ของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง โดยต้องใส่ชุด ppe ซึ่ง ต้องใส่หลายชั้นและรัดกุมมาก หลังจากปฏิบัติหน้าที่เสร็จ จึงไปอาบน้ำ เพื่อกลับไปปฏิบัติหน้าที่อื่นต่อไป ขณะอาบน้ำมีอาการวูบ จึงได้เคลื่อนย้ายมารักษา ที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถ ยื้อชีวิตไว้ได้ ผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและผล ทางห้องปฏิบัติการเป็นการเสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
ต่อมาโรงพยาบาลลำพูน ได้เผยแพร่ประกาศระบุว่า แจ้งข่าวกรณีบุคลากรโรงพยาบาล เสียชีวิตขณะปฏิบัติงาน โรงพยาบาลลำพูนขอแจ้งกรณีเจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์เสียชีวิตในขณะปฏิบัติ เฝ้าระวัง เป็นเจ้าหน้าที่เพศชาย๔๓ ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันโลหิตควบคุมโรค ได้ สุขภาพทั่วไปแข็งแรงเข้าปฏิบัติงาน๔ เมษายน ๒๕๖๓ ได้มาทำเอ็กซเรย์ หลังจากนั้นขณะจะอาบน้ำมีอาการวูบแน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยพูดคุย ได้เคลื่อนย้าย มารักษาที่ห้องฉุกเฉินต่อมาหัวใจหยุดเต้นได้ทำการช่วยฟื้นคืน๑ ชั่วโมง ๒๐ นาที ไม่สามารถฟื้นคืน เบื้องต้นอาการของ ผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและผล ทางห้องปฏิบัติการเป็นการเสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ดังนั้นเพื่อเป็นการรับทราบข้อมูล ไม่ให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อนจึงขอแจ้ง มาเพื่อทราบโดยทั่ว
และทางเพื่อนร่วมงานก็ได้มีการโพสต์คลิปไว้อาลัยผ่านทางเฟซบุ๊ค Tee Noy Funtha โดยระบุแคปชั่นว่า ไว้อาลัยแด่นักรบเสื้อกาวน์.. เบิ้ม..ชัยวัฒน์ ศรียอง นักรังสีการแพทย์ปฏิบัติการ รพ.ลำพูน …เราชวนนายเล่นบอลทุกปี แต่นายไม่เล่น นายบอกจะไปส่งลูก ไปอยู่เวร ร่างกายไม่ไหว … ถ้านายเล่นตั้งแต่วันนั้นก็คงไม่เป็นแบบนี้ ขอให้นายไปสู่ภพภูมิสวรรค์ชั้นฟ้าที่ดีนะเบิ้ม …ฮืออออออ
อ้างอิงจาก: โรงพยาบาลลำพูน, Tee Noy Funtha