10 คำถามยอดฮิต ขอเงินคืนค่าประกันไฟฟ้า
หลังจากที่รัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป ก็ทำให้คนจำนวนมากพากันไปลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือ แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ต้องลงทะเบียนรับเงินคืนอย่างไร พร้อมมีข้อสงสัยอีกมากมาย เราจึงรวบรวมคำถามต่างๆ มาคลายข้อสงสัยให้กับทุกท่านดังนี้
1.ใครลงทะเบียนรับเงินประกันไฟฟ้าได้บ้าง?
ต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก
ต้องเป็นเจ้าของมิเตอร์ผู้วางเงินประกัน ณ เวลาที่มาแจ้งขอใช้ไฟฟ้าเท่านั้น
2.ได้รับเงินประกันไฟฟ้าคืนเท่าไร?
แต่ละบ้านจะได้รับเงินไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาดมิเตอร์ที่ใช้อยู่ โดยมิเตอร์แต่ละขนาดจะมีอัตราเงินประกัน ดังนี้
3.ลงทะเบียนคืนเงินประกันไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวงได้อย่างไร?
สำหรับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ให้ลงทะเบียนผ่านช่องทางของการไฟฟ้านครหลวง (MEA) อาทิ
ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ การไฟฟ้านครหลวง
ลงทะเบียนทางโทรศัพท์ หมายเลข 02 256 3333 (วันที่ 25 มีนาคม – 29 พฤษภาคม 2563)
ลงทะเบียนที่ทำการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
4.ลงทะเบียนคืนเงินประกันไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้อย่างไร?
สำหรับผู้อยู่อาศัยในต่างจังหวัด ให้ลงทะเบียนผ่านช่องทางของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) อาทิ
ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
สแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนมีนาคม
ติดต่อที่ทำการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
5.ลงทะเบียนได้ถึงวันไหน?
เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป และจะไม่มีกำหนดสิ้นสุด ดังนั้น หากเปิดให้ลงทะเบียนแล้ว ก็ไม่ต้องรีบไปลงทะเบียน เพราะสามารถลงทะเบียนได้ตลอดเวลา ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมง
6.ชื่อเจ้าของบ้านไม่ตรงกับชื่อเจ้าของมิเตอร์ ขอรับเงินประกันคืนได้ไหม?
กรณีนี้ จะรับเงินคืนได้ก็ต่อเมื่อเจ้าของมิเตอร์ (ผู้วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้า) ต้องทำหนังสือโอนสิทธิ์เงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับเจ้าของบ้านแล้วเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขอรับเงินประกันได้ เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่ได้เป็นผู้วางเงินประกันตั้งแต่ต้น ดังนั้นต้องโอนสิทธิ์ก่อน แล้วนำเอกสารต่อไปนี้ มาแจ้งต่อการไฟฟ้าฯ
หนังสือการโอนสิทธิ์ให้รับคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าจากเจ้าของเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ร้องขอ (ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม กฟน. หรือ กฟภ.) หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น สัญญาซื้อ-ขาย โฉนดที่ดิน น.ส.3 ก.
หลักฐานผู้ขอรับเงิน กรณีเป็นบุคคลธรรมดา บัตรประจำตัวประชาชน -กรณีเป็นนิติบุคคล สำเนาหนังสือจดทะเบียนนิติบุคคลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อายุไม่เกิน 1 เดือน ประทับตรานิติบุคคลฯ ทุกฉบับ พร้อมลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามรับรอง และบัตรประชาชนของผู้ลงนามมอบอำนาจ
ใบเสร็จรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ถ้ามี)
หน้าสมุดเงินฝากธนาคารที่มีเลขที่บัญชีและชื่อของเจ้าของบัญชี กรณีเลือกขอรับเงินโดยการโอนเงิน (ชื่อบัญชีเดียวกับชื่อผู้ขอรับเงินเท่านั้น)
7.สามี-ภรรยาจดทะเบียนสมรส แต่ปัจจุบันแยกกันอยู่ จะขอคืนเงินประกันได้ไหม?
การไฟฟ้าฯ จะคืนเงินประกันไฟฟ้าให้ผู้มีชื่อเป็นเจ้าของเงินประกันการใช้ไฟฟ้า หากสามีเป็นผู้วางเงินประกันก็สามารถขอเงินคืนได้ แต่หากภรรยาต้องการขอเงินคืน สามีต้องทำหนังสือโอนสิทธิ์ให้ความยินยอมก่อน
8.บ้านที่ถูกหักค่าไฟฟ้าจากเงินประกันไป ไม่เหลือเงินประกันแล้ว ต้องทำอย่างไร?
หากยังมีการใช้ไฟเป็นปกติ ไม่ต้องดำเนินการขอคืนเงินประกัน
หากมีหนี้ค่าไฟฟ้าค้างชำระ ให้ดำเนินการตามกระบวนการงานติดตามเร่งรัดหนี้ งดจ่ายไฟต่อไป
9.ขายบ้านไปแล้วแต่ยังไม่ได้โอนเปลี่ยนชื่อ เจ้าของเดิมสามารถขอรับเงินประกันคืนได้ไหม?
หากเจ้าของเดิมยังไม่ได้โอนสิทธิ์ให้ใคร ก็สามารถลงทะเบียนรับคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าได้เลย
10. ยื่นเอกสารทั้งหมดได้ที่ไหน?
สามารถยื่นเอกสารออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ กฟน. และ กฟภ. ก็ได้
ข้างต้นนั้นเป็นเพียงรายละเอียดคราวๆเท่านั้น ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบได้ที่การไฟฟ้านครหลวง โทร. 1130 หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร. 1129 หรือที่ เฟซบุ๊ก การไฟฟ้านครหลวง และ เฟซบุ๊ก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA
อ้างอิงจาก: https://www.thaismiletopic.com/archives/66145