ภาพบีบหัวใจ ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้กอดได้หอมลูกน้อย
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 63 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีเนื้อหาสรุปดังนี้
-วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 120 ราย ยอดสะสม 1,771 ราย / สัญชาติไทย 1,500 ราย สัญชาติอื่น 271ราย
-ผู้ป่วยรายใหม่ 120 ราย จำแนกได้ดังนี้
1.ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 51 ราย แบ่งเป็น สนามมวย 1 ราย ,สถานบันเทิง 11 ราย,สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ 38 ราย และงานบุญมาเลเซีย 1 ราย
2.ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ 39 ราย แบ่งเป็น คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 6 ราย พิธีกรรมทางศาสนาประเทสอินโดนีเซีย 16 ราย รวม 22 ราย ,คนต่างชาติเดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย,อาชีพเสี่ยงเช่นทำงานในสถานที่แอดัด หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ เป็นต้น 14 ราย และบุคลากรด้านการแพทย์ 1ราย
3.อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 30 ราย
-ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวม 12 ราย
-ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 ราย ดังนี้ คนที่ 1 เพศชาย อายุ 79 ปี อยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน ไตวายเรื้อรัง มีประวัติการเดินทางไปร่วมงานแต่งในมาเลเซีย และ คนที่ 2 เพศชาย อายุ 58 ปี นักธุรกิจกลับจากอังกฤษ
-ยอดผู้เข้ารับการรักษาจนหายและกลับบ้านได้แล้ว 342 ราย
-สำหรับผู้ป่วย 120 คนใหม่ มี กทม. 43 คน สมุทรปราการ 23 คน ภูเก็ต 11 คน กระบี่ นนทบุรี ปทุมธานี บุรีรัมย์ สงขลา และชลบุรี 2 คน ฉะเชิงเทรา นครปฐม ศรีสะเกษ สมุทรสาคร สระบุรี หนองบัวลำภู อุบลราชธานี 1 คน และอยู่ระหว่างสอบสวน 24 คน ซึ่งการกระจายตัวผู้ป่วยยังกระจุกตัวที่ กทม.และปริมณฑล 850 ราย
-ยอดผู้ติดเชื้อยังกระจุกอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
-ถ้านับเฉพาะกรุงเทพฯ อยู่ที่ 850 คน คนที่เดินทางอยู่ในกรุงเทพฯ มีความเสี่ยงทั้งสิ้น
-คนกรุงเทพฯ ปริมณฑล มีอัตราการแพร่เชื้อให้ผู้ถือถึง 3 เท่า หรือ 3 คนกว่า
-แม้จะเข้ารับการรักษาในรพ. แต่ก็จะมีผู้ที่แวดล้อมกับผู้ติดเชื้อ คูณไป 2-3 เท่าที่มีอัตราการแพร่เชื้อ จะทำให้ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นๆ
-ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทำให้มีจังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยเลยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า เกิดรายใหม่ขึ้นในช่วงวันที่ 25-31 มี.ค. โดยกระจายไปถึง 13 จังหวัด สอบสวนโรคพบว่า จ.ชุมพร นครพนม พิษณุโลก พะเยา หนองคาย อำนาจเจริญ มุกดาหาร ลำพูน (ส่วนใหญ่ติดจากสถานบันเทิงจากกทม.) เพชรบุรี อุทัยธานี (สัมผัสบุคคลภายนอกพื้นที่) แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ (เดินทางจากต่างประเทศ) มุกดาหาร (บุคลากรทางการแพทย์) สุพรรณบุรี (ร้านเสริมสวยสัมผัสจากภูเก็ต) มุกดาหาร (มาจากสนามมวย)
-ส่วนผู้ที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง ยังทำได้ไม่ดีนักเพราะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ตัวเลขของสามจังหวัดชายแดนใต้มีสถานการณ์ที่ดีขึ้น ส่วนการปิดสถานบันเทิงยังมีตัวเลขสูงขึ้นซึ่งคงต้องมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้น
-กรณีรณรงค์ให้อยู่บ้าน พบว่า เมื่อมีการรณรงค์ให้อยู่บ้าน ลดการกลับบ้าน เพิ่มระยะห่างในบ้าน แต่จำนวนการติดภายในบ้านยังไม่ลดลง เป็นเรื่องน่ากังวล ตัวเลขช่วงปลายเดือนเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับต้นเดือน หมายความว่าแม้อยู่บ้าน แต่ไม่เพิ่มระยะห่างคนในบ้าน ผู้ป่วยก็ไม่ลดลง
ล่าสุด ในเพจ ฮาลำพูน โพสต์ข้อความระบุว่า “โชคดีครับพ่อ”พ่อลูกทั้งสอง จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ต้องแยกบ้านกันอยู่ เพราะกลัวนำเชื้อโควิด19 มาติดคนในครอบครัวเนื่องจากคุณพ่อต้องไปทำงาน ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ใน รพ.ลำพูนและอีกหลายครอบครัว ของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องแยกกันอยู่กับคนที่เค้ารัก .. ไม่ได้กอด ไม่ได้หอม ไม่ได้อยู่ใกล้ ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน มันทรมาณ แต่ มันคือหน้าที่
อ้างอิงจาก: https://www.xn--42c2dgos8bxc2dtcg.com/228863/?utm_source=bottom_relate&utm_medium=internal_referral