รายที่ 10 ของไทยชายวัย 48 ปี เป็นนักดนตรี เสียชีวิต หลังเป็นไข้ จากโควิดได้เพียง 5 วัน
31 มี.ค. 2563 ผู้ป่วยโควิดชายวัย 48 ปี เป็นนักดนตรี เสียชีวิต รายที่ 10 ของไทย
โดย เมื่อวันที่ 26 มี.ค. เข้า รพ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ปรากฏว่าติดเชื้อโควิด19อาการ มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ หายใจเหนื่อยหอบ มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน มะเร็งลำไส้ ให้เคมีบำบัดครบแล้ว และไวรัสตับ อักเสบ มีไข้สูง ปอดติดเชื้อ 2 ข้าง ใส่เครื่องช่วยหายใจ และเสียชีวิตจากภาวะระบบหายใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา
ผู้ป่วยเป็นชายไทยสัญชาติไทยอายุ 48 ปี ทำงานเป็นนักดนตรีที่กรุงเทพมหานคร จนเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลบาลพยัคฆภูมิพิสัย ซึ่งจากการวินิจฉัยโรค เข้าข่าย PUI หรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีอาการอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ หายใจเหนื่อยหอบ จากการสอบถามพบพบมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน มะเร็งลำไส้ผ่าตัดแล้ว ให้เคมีบำบัดครบแล้ว และไวรัสตับ อักเสบ เคยรักษาที่ ร.พ.ตากสิน กรุงเทพมหานคร
หลังจากเข้ามารักษาตัวได้เพียง5 วันเท่านั้นก็เสียชีวิต ในส่วนการรักษา ผู้ป่วยได้รับการเอ็กซ์เรย์ปอดที่โรงพยาบาลพยัคมภูมิพิสัย พบว่าปอดมีอาการติดเชื้อทั้งสองข้าง เข้าได้กับอาการโรดปอดบวม จึงทำการเพาะเชื้อ ต่อมาผู้ปวยมีอาการหอบมากขึ้น จึงได้ส่งต่อมาโรงพยาบาลมหาสารคาม ในวันที่ 26 มี.ค. เวลา 14.25 น.
ต่อมาผู้ป่วยมีอาการหอบและมีไข้ อุณหภูมิ 39 องศาเซลเซียส แพทย์ได้สั่งนอนในตึกเฉพาะโรค รักษาโดยให้ยาฆ่าเชื้อ ใส่สายออกซิเจน ในเช้าวันที่ 27 มี.ค. ผู้ป่วยมีอาการหอบมากขึ้น แพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ใช้เครื่องช่วยหายใจ และได้ให้ยานอนหลับและยาคลายกล้ามเนื้อ โดยคณะแพทย์ ร.พ.มหาสารคาม ได้รักษาโดยให้ยาต้านไวรัส และให้การรักษาตามแนวทาง กระทรวงสาธารณสุข
กระทั่งถึงเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 มี.ค.(วานนี้) ผู้ป่วยมีอาการทรุดลงเรื่อยๆ เนื่องจากมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคเบาหวาน ไวรัสตับอักเสบบี มะเร็งลำไส้ ซึ่งได้รับการผ่าตัด และเพิ่งได้รับเคมีบำบัดครบการรักษาไปแล้วไม่นาน ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากภาวะระบบหายใจล้มเหลว เมื่อเวลาประมาณ 05.37 น. และเสียชีวิตในที่สุด