ผบ.สส. ขอความร่วมมือประชาชน ถ้าไม่ปรับการดำเนินชีวิตตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูงถึง 10,000 ราย
วันที่ 26มี.ค.63 พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะผู้รับผิดชอบด้านความมั่นคง กล่าวว่า ขณะมีการจัดตั้งจุดควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศแล้ว 359 จุด เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นตำรวจและฝ่ายปกครองมีทหารเข้าร่วมเพียง 7 จุดในกทม.
ซึ่งจุดตรวจดังกล่าวจะดูแลให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อแนะนำที่สาธารณสุข เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม และการสวมหน้ากากอนามัย หลังจากนี้ถ้ามีการกำหนดข้อปฏิบัติเพิ่มเติม เช่น ถ้ากระกระทรวงพาณิชย์กำหนดสินค้าควบคุมเพิ่มเติมก็จะตรวจตราตรงนี้ ซึ่งการคัดกรองจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ยืนยันเราจะอำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้มากที่สุด ที่ผ่านมาภาครัฐเชิญชวนให้ประชาชนปฏิบัติตัวป้องกันโรคหลายอย่าง แต่ทุกคนยังใช้ชีวิตปกติ จึงทำให้ตัวเลขสูงขึ้นหลังจากนี้ถ้าเชิญชวนแล้วไม่ปฏิบัติ รณรงค์แล้วไม่ทำตัวเลขก็จะยิ่งสูงขึ้น และไม่รู้ตัวเลขจะจบตรงไหน
จึงเป็นที่มาของการกำหนดมาตรการขณะนี้ยังไม่ปิดประเทศ ปิดเมือง และปิดการสัญจร แต่ถ้าพฤติกรรมยังไม่เปลี่ยนและตัวเลขสูงขึ้นก็จะนำไปสู่การปิดประเทศ ผลกระทบดำเนินชีวิตของประชาชนจะสูงขึ้น ถ้าไม่ปิดประเทศโดยบังคับ โดยประชาชนสมัครใจปิดตัวเองไม่ไปไหนมาไหน ไม่ดีกว่าหรือมาถึงตรงนี้ทุกคนอยากให้โควิด-19 ผ่านพ้น
พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า วันนี้อยากขอความร่วมมือนายจ้าง หัวหน้าส่วนราชการพิจารณาแนวทางเหลื่อมเวลา ลดเวลาการทำงาน ป้องกันการรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก วันพฤหัสบดีคิด วันศุกร์สั่ง เสาร์ และอาทิตย์ก็ขอให้อยู่กับบ้าน ถ้าทุกคนทำด้วยความสมัครใจตามคำแนะนำอยากให้รอดูผลที่จะเกิดขึ้น เพราะตัวเลขนับพันที่เกิดขึ้นในขณะนี้เกิดจากความหละหลวม ไม่ทำตามคำแนะนำเมื่อ 10 วันก่อน
สิ่งที่จะทำวันนี้ก็จะส่งผลถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อใน 10 วันข้างหน้า และจากการประเมินถ้าทุกคนทำตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัดผู้ติดเชื้อจนถึงวันศุกร์หน้าจะอยู่ที่ 2 พันราย แต่ถ้าไม่ปรับวิธีดำเนินชีวิตตัวเลขจะสูงถึง 7,000-10,000 ราย
เมื่อถามว่า รัฐบาลสั่งห้ามรวมตัวกันในวันที่ 3 มี.ค.แต่หลังจากนั้นมีการจัดมวยทำให้ผู้ที่ติดเชื้อจำนวนมาก พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า มีเรื่องของอดีต และมีเรื่องของวันข้างหน้า สิ่งที่ตนพูด เป็นเรื่องของวันข้างหน้า แต่ยอมรับเกิดจากความบกพร่องไม่รัดกุม ผู้เกี่ยวข้องจะตรวจสอบต่อไป และไม่ขอลงไปถึงส่วนที่ผ่านไปแล้ว
ขอบคุณภาพ
Wassana Nanuam
อ้างอิงจาก: Wassana Nanuam