แต่ถ้าล็อคดาวน์ทันที คนไทยจะป่วย 2.4 หมื่นคน ตาย 485 คน
หมายเหตุ แหล่งที่มาของข้อมูล มาจากการประชุมด่วนเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานหารือกับ คณบดีคณะแพทยศาสตร์จากหลายมหาวิทยาลัย รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิด้านสาธารณสุข
ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมได้แก่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นพ.ปิยสกล สกลสัตยาธร อดีตรมว.สาธารณสุข และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดี นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา เป็นต้น
ทั้งนี้ กลุ่มคณะแพทย์ ได้มีการนำเสนอแนวทางการป้องกันการระบาดโรค ภายใต้ชื่อว่า "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" ให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับทราบ โดยระบุว่า
ถ้าหากดำเนินมาตรการแบบเดิม ไปอีก 30 วัน คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วย จะสูงถึง 351,948 ราย นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 52,792 ราย อยู่ไอซียู 17,597 ราย เสียชีวิต 7,039 ราย
แต่ถ้าหากใช้มาตรการ ล็อคดาวน์ ให้ประชาชนอยู่ในบ้าน ตัวเลขคาดการณ์จำนวนผู้ป่วยจะอยู่แค่ 24,269 ราย นอนโรงพยาบาล 3,640 ราย ไอซียู 1,213 ราย ตาย 485 ราย