ทำไมคนจนในอดีตต้อง ขุดลำต้นกิน แทนที่จะลงไปจับสัตว์ในแม่น้ำ
ชีวิตที่แย่มากแล้ว พวกเขาก็ถูกกดขี่โดยเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่และต้องประสบผลกระทบจากภัยธรรมชาติอีกด้วย
เนื่องจากพวกเขาอยู่ในยุคของอารยธรรมเกษตร เมื่อภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นพืชในทุ่งจะหายไป สำหรับคนรวยบางคนพวกเขายังมีอาหารเหลือเฟือ ส่วนคนจนเหล่านั้นก็ทำได้เพียงนั่งนอนรอ อ ด ต า ย หรือเลือกที่จะหนีไปยังที่อื่นเท่านั้น ทราบหรือไม่ว่าชาวเกษตรกรในอดีตบางคนยินดีเดินทางหลายพันไมล์ เพื่อหนีความอ ด อ ย า ก แต่ไม่ยอมไปตกปลาในแม่น้ำ? แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในตอนนั้นจะไม่ได้รับความเสียหายมากนัก และแม่น้ำ ลำคลองก็ถือได้ว่ามีกุ้ง หอย ปู ปลาที่มากมายอดุมสมบรูณ์ แต่ในความเป็นจริงเหตุผลหลักที่พวกเขาไม่ไปหาอาหารในแม่น้ำก็เพราะ พวกเขาไม่มีความสามารถในจับสัตว์น้ำเหล่านั้นต่างหาก
ในกรณีที่เกิดภัยธรรมชาติ ผู้อาศัยบนภูเขาหรือชายทะเลบางคนก็จะได้รับความเ สี ย ห า ย น้อยหน่อย เพราะแหล่งอาหารรอบตัวของพวกค่อนข้างสมบรูณ์มากพอที่จะทำให้พวกเขามีกินอิ่มตลอดทั้งปี สำหรับผู้อยู่อาศัยอยู่ในที่ราบนั้นก็จะทำไร่ ทำนาเท่านั้น ดังนั้นเมื่อไม่มีการเก็บเกี่ยวอาหาร มันจะกลายเป็นหายน ะ สำหรับพวกเขา สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถทำได้คือการหาพืชทดแทนอย่างอื่นมาประทังชีวิต นั้นก็คือ “ลำต้นของต้นไม้” หรือ หญ้า เพราะว่าพวกเขาจะกินพืชที่อยู่ตรงหน้าให้หมด ทำให้นกและสัตว์อื่นๆ ไม่มีที่อยู่อาศัยและเป็นไปไม่ได้ที่พืชเหล่านั้นจะทำให้พวกเขาอิ่มท้องได้ เมื่อมนุษย์หิวโหย ก็มักจะไม่มีเรี่ยวแรง
ยิ่งกว่านั้นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นความแห้งแล้ง หรือน้ำท่วม หากเป็นฤดูแล้ง แม่น้ำก็จะแห้ง และหากเป็นน้ำท่วมและแม่น้ำลึกมากจนไม่สามารถลงไปหาอาหารได้ เพราะอาจทำให้เสียชีวิตได้